บริษัท Tencent Holdings เป็นหนึ่งในสามธุรกิจอินเตอร์เน็ตที่มีอิทธิพลสูงสุดในจีน (BAT - Baidu, Alibaba, Tencent) บริษัทเป็นเจ้าของแอพพลิเคชั่นประเภทแชทบนมือถือชื่อ WeChat ซึ่งมีผู้ใช้ชาวจีนมากที่สุด และยังมีทั้งรายได้และกำไรเติบโตเฉลี่ยเกินกว่า 20% อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์

ในช่วงเทศกาลวันตรุษจีนที่ผ่านมา สำนักข่าว China Daily รายงานว่า ยอดจำนวนซองอั่งเปาที่มีการส่งให้กันบนแอพพลิเคชั่น WeChat ตั้งแต่วันที่ 7-12 กุมภาพันธ์ รวมแล้วมีจำนวนสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 3.2 หมื่นล้านครั้ง ซึ่งตัวเลขนี้สูงกว่าเมื่อปีที่แล้วถึง 10 เท่า 

Tencent ได้ปล่อยสถิติออกมาว่าปี 2016 นี้มีคนมากกว่า 516 ล้านคนร่วมส่งอั่งเปาออนไลน์บน WeChat คิดเป็นจำนวนคนเกือบครึ่งหนึ่งของขนาดประชากรชาวจีน

แม้ว่าวัฒนธรรมการให้อั่งเปาของชาวจีนจะมีมานานแล้ว แต่บริษัทกลุ่ม BAT ก็ไม่พลาดที่จะสร้างกระแสการส่ง "อั่งเปาแบบดิจิตอล" โดยให้ลูกค้าผู้ใช้งานเทคโนโลยีของบริษัทสามารถแลกเปลี่ยนอั่งเปากันได้บนเครือข่ายออนไลน์ที่มีผู้ติดตามอยู่หลายร้อยล้านคน

การเพิ่มจำนวนของอั่งเปาออนไลน์บน WeChat กว่า 10 เท่านั้น โตในอัตราสูงกว่ายอดขายออนไลน์ของ Alibaba ในวันคนโสดของจีนเมื่อวันที่ 11 เดือน 11 ปีที่แล้วมาก แต่ทั้งสองเทศกาลแสดงให้เห็นว่าศักยภาพการค้าขายบนโลกออนไลน์ของจีนยังมีช่องว่างให้เติบโตอีกมากมาย

สำหรับบริษัท Tencent นั้น เมื่อปี 2014 ก็ยังสามารถเติบโตได้มหาศาลทั้งสองช่องทางรายได้หลักอย่าง:

(1) รายได้จากบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Services หรือ VAS) ได้แก่รายได้จากการขายสินค้าในเกมที่เล่นบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเชื่อมต่อเข้ากับแอพพลิเคชั่น WeChat เพิ่มขึ้นกว่า 40% และรายได้จาก Social Network ที่เชื่อมต่อกับเกมออนไลน์เพิ่มขึ้นอีกกว่า 43%

(2) รายได้จากโฆษณาออนไลน์ (Digital Advertising) เพิ่มขึ้นกว่า 65% จากการลงทุนสร้างนวัตกรรมรูปแบบการโฆษณาใหม่ ทั้งระบบภาพ วิดีโอ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ลงโฆษณา รวมถึงการหาพันธมิตรที่สามารถสร้าง content ที่ดีบนระบบ ecosystem ของ WeChat

กำไรทั้งปี 2014 ของ Wechat เติบโตได้กว่า 54% จากฐานที่ไม่ถือว่าต่ำคือ 8.5 หมื่นล้านในปี 2013 เป็น 1.3 แสนล้านบาทในปี 2014 แม้ว่าเศรษฐกิจจีนโดยรวมจะดูชะลอลงไป แต่เมื่อนับรวมไตรมาส 1-3 ของปี 2015 ยอดขายและกำไรของ Tencent ยังคงเติบโตได้ดีต่อเนื่องต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก China Daily

ขอบคุณภาพจาก techinasia.com

บทความโดย บูม / FB: MoneyCrown