นาทีนี้คงไม่มีหุ้นตัวไหนที่ร้อนแรงไปกว่าหุ้น DELTA อีกแล้ว
ด้วยราคาหุ้นที่แตะระดับ "พันบาท" จนทำให้ Market Cap ของหุ้นสูงถึงหลักล้านล้านบาทไปเป็นที่เรียบร้อย เรียกได้ว่าเป็นหุ้นที่นักลงทุนคาดหวังในเรื่องของการเติบโตเป็นอย่างมาก
คำถาม คือ ในความเป็นจริงแล้ว ผลประกอบการของ DELTA เติบโตทันเพียงพอกับราคาหุ้นที่ขึ้นมาหรือไม่
คำตอบ คือ ไม่เลย
อีกทั้ง ผลประกอบการของ DELTA มีแนวโน้มอ่อนแอลงด้วยซ้ำ
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ยูโอบี เคย์เฮียน วิเคราะห์ว่าผลประกอบการของ DELTA ในไตรมาส 1 มีแนวโน้มอ่อนแอลง QoQ จากรายได้ที่ลดลง อัตรากำไรขั้นต้นลดลง แต่จะสูงขึ้น YoY สาเหตุเป็นเพราะมาจากฐานที่ต่ำ
บทวิเคราะห์มองว่า DELTA จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1 อยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% YoY แต่ลดลง 8% QoQ
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมทั้งปีมีแนวโน้มเติบโตราวๆ 25% จากกระแสรถไฟฟ้า EV และธุรกิจ Original Design Manufacturing (ODM) โดยเฉพาะธูรกิจรถไฟฟ้า EV
ข้อมูลจาก Statista แสดงความคิดเห็นว่า ยอดขายรถไฟฟ้า EV จะอยู่ที่ 7.13 ล้านคัน เติบโต 10% และมีแนวโน้มเติบโตเฉบี่ย 17% ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2570 ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อผลประกอบการอง DELTA ด้วย
อย่างไรก็ตาม DELTA ก็มีประเด็นเชิงบวก แต่สิ่งที่จะตัดสินนักลงทุนว่าจะกำไร หรือขาดทุนอยู่ที่ราคาที่นักลงทุนซื้อ ซึ่งราคาปัจจุบัน บทวิเคราะห์มองว่าแพงเกินไป
โดย บทวิเคราะห์สรุปได้อย่างน่าสนใจว่า ...
DELTA มีราคาที่สูงเกินไป และยังไม่อยู่ในระดับที่เหมาะสม เนื่องจากกำไรสุทธิต่อหุ้น ของ DELTA Taiwan สูงกว่า DELTA Thailand ถึงสามเท่า แต่มูลค่า Market Cap. ของ DELTA Taiwan กลับเล็กกว่าของ DELTA Thailand ถึง 1.5 เท่า
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ยูโอบี เคย์เฮียน