หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินว่าถ้าหากอยากมีเงินเก็บให้หารายได้ที่มาจาก Passive Income
Passive Income คือ รายได้ที่มาจากการที่เราลงแรงไปในตอนแรก แต่ยังคงได้รายได้นั้นกลับมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่างานจะเสร็จสิ้นไปแล้วก็ตาม กล่าวคือ เป็นเงินที่สามารถสร้างกระแสเงินสดหรือรายรับกลับมาอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง
ซึ่งจะตรงกันข้ามกับ “Active Income” ที่เป็นรายได้ที่ได้รับจากการให้บริการ ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบของ ค่าจ้าง เงินเดือน ค่าคอมมิชชั่น ทิป หรือกล่าวง่าย ๆ คือเป็นรายได้ที่มาจากการทำงานจากการประกอบอาชีพนั่นเอง
เปรียบเทียบ Active Income และ Passive Income
อย่างที่บอกไปว่า “Active Income” มีความหมายตรงกันข้ามกับ “Passive Income” ซึ่งบางคนอาจจะยังไม่ค่อยเห็นภาพสักเท่าไรว่ารายได้ทั้งสองประเภทนี้นั้นต่างกันอย่างไร เราจึงขอทำตารางเปรียบเทียบยกตัวอย่างให้ทุกคนได้เห็นภาพกันชัดมากขึ้น
Active Income VS Passive Income
- งานที่ปรึกษาคิดค่าบริการรายชั่วโมง VS สร้างคอร์สออนไลน์ให้คนซื้อได้
- รับงานเขียนแบบฟรีแลนซ์ VS เขียนหนังสือ หรือ เขียน E-Book
- รับจ้างถ่ายรูปและคิดค่าคอมมิชชั่น VS ขายภาพถ่ายผ่าน Getty Images
- ขับรถสามล้อรับส่งผู้โดยสาร VS ให้เช่าพื้นที่โฆษณาหลังรถสามล้อง
การลงทุนต่างๆที่ได้ผลตอบแทน หรือแม้แต่การฝากเงินธนาคารได้ดอกเบี้ยก็นับเป็น Passive Income นอกเหนือจากรายได้ที่เราประกอบอาชีพเช่นกัน
แต่จุดสำคัญที่จะสร้าง passive income คือเราต้องมีเงินทุนก่อน อย่างป๊าต้องทำงานเเบบหามรุ่งหามค่ำถึง10ปีถึงมีเงินเก็บ1ล้านบาทแรกได้
มาถึงปัจจุบันถ้าถามตัวป๊าเอง ป๊ามีรายได้จาก Passive income น้อยมาก ป๊าชอบลงทุนที่ดินเปล่า ที่ยังไม่ได้พัฒนา (ดิบๆเลยครับ) แต่เป็นที่มีศักยภาพ หรือการลงทุนในหุ้น ป๊าจะเน้นกำไรจากส่วนเหลื่อมของราคา Capital gain เป็นก้อนทีเดียว ไม่เน้นปันผล (ชอบความเสี่ยงมากกว่าหน่อย)
หรืออย่างเวลาที่มีเงินเก็บ ตอนพอร์ตว่าง ป๊าก็จะเก็บสภาพคล่องไว้ ฝากออมทรัพย์ไว้ แทบจะไม่ได้ดอกเบี้ย แล้วป๊าจะรอจังหวะลงทุนดีๆ 3ปีก็รอได้ เน้นต่อยแน่นๆหนักๆ ไปเลยทีเดียว
เอาจริงๆมันขึ้นอยู่นิสัยแต่ละบุคคลนะครับว่าจะรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน แต่ถ้าเรารู้วิธีหาปลา มีประสบการณ์ รูปแบบไหนที่มีโอกาส เราลุยหมดครับ