"เป้าหมายของเรา คือ การเป็นบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านการตรวจสอบเฉพาะทางขั้นสูงแก่อุตสาหกรรมชั้นนำระดับนานาชาติแบบครบวงจร และให้บริการอย่างต่อเนื่องไปทุกภูมิภาคของโลกอย่างยั่งยืน"
... นี้คือวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ของหุ้นน้องใหม่ IPO ที่กำลังจะเข้าตลาด 
อย่าง DEXON หรือ บริษัท เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)

โดยบริษัท คือผู้ให้บริการตรวจสอบทางวิศวกรรม โครงสร้างพื้นฐาน และอุปกรณ์การผลิตในทุกอุตสาหกรรมระดับสูง เช่น ปิโตรเลียม ปิโตรเคมี การผลิตไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียน รวมถึงท่อส่งน้ำมัน อุปกรณ์รับแรงดัน ถังแลกเปลี่ยนความร้อน เก็บน้ำมัน สารเคมี รวมถึงกังหันลมผลิตไฟฟ้า เรียกได้ว่าเป็น "ผู้ตรวจสอบ" ในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ความชำนาญสูง

DEXON มีจุดเริ่มต้นมาจาก นายสตูวิค สตาเล่ มาร์ติน ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบวิศวกรรมในอุตสาหกรรมพลังงานและปิโตรเคมี เข้ามาเริ่มต้นธุรกิจในไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 โดยการให้บริการตรวจสอบทางวิศวกรรมระบบท่อส่ง และ ท่อผลิตปิโตรเลียมในทะเล (Riser)  
บริษัทมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เริ่มเทคนิคการตรวจสอบใหม่ๆ เช่น 
... เป็นผู้ริเริ่มในการนำเทคนิคการโรยตัวด้วยเชือกตามมาตรฐานของสถาบัน Industrial Rope Access Trade Association (IRATA) จากประเทศอังกฤษ โดยได้รับการรับรองจากสถาบันฯ เป็นบริษัทแรกของประเทศไทย 
.... พัฒนาและจัดทำ Ultrasonic Pipeline Inspection System เพื่อตรวจสอบความหนาของระบบท่อส่งที่บริเวณอ่าวไทย ด้วยความร่วมมือของ PTTEP 
เรียกได้ว่า เป็นหนึ่งในผู้นำการตรวจสอบแบบไม่ทำลายด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย  

ความน่าสนใจของหุ้นน้องใหม่ที่กำลังจะ IPO ในตลาดเร็วๆนี้ มีอะไรบ้างที่น่าจับตา
อยากจะเล่าให้ฟัง 4 ข้อแบบสรุป ...

1. บริษัททำธุรกิจอะไร รายละเอียดหุ้นแบบสรุป
DEXON เป็นผู้ให้บริการตรวจสอบทางวิศวกรรม และ สร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีสำหรับตรวจสอบโครงสร้าง และ อุปกรณ์การผลิตในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม พลังงาน ปิโตรเคมี อุตสาหกรรมก่อสร้าง โรงไฟฟ้า และอุตสาหกรรมประเภทอื่นๆ ซึ่งมีทีมผู้เชี่ยวชาญ และ ทีมวิศวกรที่มีประสบการณ์ รวมถึงให้บริการด้วยมาตรฐานทางเทคโนโลยี และ เครื่องมือที่ทันสมัย โดยที่บริษัทสามารถพัฒนาขึ้นเอง ได้รับการยอมรับ และ ได้รับใบรับรองมาตรฐานต่างๆ จากหน่วยงานรับรองระบบในระดับสากล

บริษัทจะเสนอขาย IPO ที่ราคา 4.5 บาทต่อหุ้น 
ราคาพาร์ 0.5 บาทต่อหุ้น 
โดยมีมูลค่าตามบัญชี (Book Value) อยู่ที่ 0.77 บาทต่อหุ้น 

2. ผลประกอบการที่ผ่านมา
ปี 2563 บริษัทมีรายได้ 445.01 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 11.05 ล้านบาท
ปี 2564 บริษัทมีรายได้ 435.34 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 18.15 ล้านบาท
ปี 2563 บริษัทมีรายได้ 610.47 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 105.15 ล้านบาท
โดยบริษัทมี อัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 42%
และอัตรากำไรสุทธิ ราวๆ 18%

3. โครงสร้างรายได้
บริษัทมีแหล่งรายได้หลัก 4 ส่วนด้วยกัน คือ 
1. รายได้จากการตรวจสอบโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง สัดส่วน 78%
2. รายได้จากการตรวจสอบโดยใช้เทคโนโลยีขั้นพื้นฐาน สัดส่วน 18%
3. บริการฝึกอบรมการตรวจสอบ สัดส่วน 2%
4. การให้บริการออกแบบทางด้านวิศวกรรม ประกอบ ติดตั้งและซ่อมบำรุง สัดส่วน 1%

4. วัตถุประสงค์การใช้เงิน
บริษัทชี้แจงถึงวัตถุประสงค์ในการใช้เงิน 4 ส่วนด้วยกัน คือ
1. เพื่อใช้ขยายธุรกิจ
... ไปยังประเทศเนเธอแลนด์ (ทวีปยุโรป) จำนวน 50 ล้านบาท 
... ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 70 ล้านบาท 
2. ลงทุนในงานวิจัยและพัฒนา จำนวน 60 ล้านบาท
3. ชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน จำนวน 110 ล้านบาท
4. เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ส่วนที่เหลือจากข้อ 1 - 3

บริษัทยังเน้นย้ำอีกว่า การระดมทุนในครั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์ (ทวีปยุโรป) รวมถึงสหรัฐอเมริกา โดยเน้นให้บริการตรวจสอบทางวิศวกรรมระบบท่อด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีคู่แข่งในตลาดน้อยราย โดยเฉพาะการตรวจสอบรอยแตกขนาดเล็กในระบบท่อส่งที่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษที่มีเทคโนโลยีสูงที่บริษัทพัฒนาขึ้น (Hawk Pipeline Crack Detection and Measurement System) , ลงทุนในงานวิจัย และ พัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า และ การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม

เช่น การเปลี่ยนไปสู่พลังงานสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ การตรวจสอบระบบท่อส่งเพื่อรองรับการแปลงไปสู่การใช้งานของก๊าซไฮโดรเจน ที่จะเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ในระบบท่อส่งจากเดิมเป็นน้ำมัน และ ก๊าซธรรมชาติ เป็นการขนส่งก๊าซไฮโดรเจน การดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และ ชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน รวมถึงเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งถือเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท และ สร้างโอกาสในการแข่งขันให้กับบริษัท

ส่วนกรณีที่ทางสหรัฐฯ มีปัญหาทั้งจากเศรษฐกิจ และ วิกฤตของธนาคารนั้น จะไม่ส่งผลกระทบแต่แผนการลงทุนของบริษัท เนื่องจากบริษัทมองการลงทุนเป็นแผนระยะยาว 5 ปี 10 ปี และ เชื่อว่า ความต้องการทางด้านอุปกรณ์การผลิตในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม พลังงาน ปิโตรเคมี อุตสาหกรรมก่อสร้าง โรงไฟฟ้า ยังอยู่ในระดับสูง

ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง
DEXON พร้อมให้จองซื้อแล้วในวันที่ 24 และ 27 มีนาคม 
และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาด mai วันแรก คือ 31 มีนาคม นี้แล้วครับ ....

------------------------------------------------------------------------------
Reference
ข้อมูล Filling : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

นักลงทุนสัมพันธ์ Dexon

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

brandinside.asia

ทันหุ้น