SET Index ถูกกดดันจากปัจจับภายนอกอย่างหนัก โดยเฉพาะความกังวลเรื่องของ SVB กระจายออกไปวงกว้าง และความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่ยืนอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ SET Index Underperform ตลาดโลก
วันจันทร์ ที่ 13 มีนาคม SET Index -26.58 จุด คิดเป็น -1.66%
วันอังคาร ที่ 14 มีนาคม SET Index -49.18 จุด คิดเป็น -3.13%
พูดง่ายๆคือ ภายในสัปดาห์เดียว SET Index ร่วงแรงกว่า 76 จุด หรือ -4.7% ภายใน 2 วันทำการ ซึ่งลงมาลึกกว่าตลาดหุ้นโลกในหลายๆประเทศ
คำถาม คือ การลดลงอย่างรวดเร็ว และรุนแรง เราควรมองเป็นโอกาสหรือความเสี่ยง กันแน่ ?
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า SET Index ลงลึกและเร็วเกินไป น่าจะเกิดการดีดกลับ และยังเป็นโซน "ซื้อ" ที่น่าสะสมในเชิงพื้นฐานอีกด้วย
ทั้งนี้ มี 2 ประเด็นที่นักลงทุนควรรู้ คือ ...
1. วันที่ SET ลงหนักเกินกว่า 35 จุด วันถัดมา (คือวันนี้) SET Index จะฟื้นขึ้นมาราวๆ 30% จากส่วนที่ลง หรืออาจจะฟื้นขึ้นมาได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของที่ลง
ตัวอย่างเช่น
วันที่ 21/12/2020 หุ้นลง -80 จุด วันถัดมาฟื้นได้ 22 จุด คิดเป็นสัดส่วนการฟื้น 28%
วันที่ 15/06/2020 หุ้นลง -40 จุด วันถัดมาฟื้นได้ 25 จุด คิดเป็นสัดส่วนการฟื้น 62%
วันที่ 16/04/2020 หุ้นลง -36 จุด วันถัดมาฟื้นได้ 39 จุด คิดเป็นสัดส่วนการฟื้น 108.7%
พูดง่ายๆคือ SET Index ลง 46 จุด จะฟื้นกลับมาได้ราวๆ 23 จุด หรือเฉลี่ยฟื้นขึ้นมาราวๆ 50%
2. Valuation หุ้นไทย อยู่ในโซนน่าสะสม
ฝ่ายวิจัย มองว่า P/E ของ SET Index ปรับตัวลงมาเหลือ 18.7 เท่า จากเดิม 19.6 เท่า ถือว่าถูกกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 20.4 เท่า
โดยสรุปแล้ว ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสดีดตัวกลับสูงมาก หลังจากที่ปรับฐานอย่างรุนแรง
ถือว่านักลงทุนควรมองจังหวะนี้เป็นโอกาส มากกว่าที่จะเป็นความเสี่ยงครับ
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส