หลายวันมานี้ เจอเพื่อนๆนักลงทุนบ่นให้ฟังกันอุบเลย
ว่าตลาดหุ้นไทยเป็นอะไรไปเนี่ย
ปลายปีที่แล้วยังเชื่อว่าหุ้นไทยปีนี้ต้องดีมาก Bullish กันสุดๆ
ผ่านไปแค่ 2 เดือน กลายเป็นมอง Bearish กันไปหมดแล้ว
ช่างเปลี่ยนไว ไม่แน่นอน
ซับซ้อน และคลุมเครือ
.
.
เอาที่ภาพปัจจุบันวันนี้ก่อนนะ ... ต้องยอมรับว่า สถานการณ์สิ้นเดือนก.พ. (ตอนนี้)ไม่เหมือนกันกับปลายปีที่แล้ว
ภาพใหญ่ของ SET Index ดูขาดแรงส่ง ขาดแรงใจ ทั้ง 2 Fun
1. Fundamental พื้นฐาน
ผลประกอบการ Q4 2565 ออกมาเกือบครบแล้ว ถือว่ากำไรสุทธิลดลง ทั้ง QoQ และ YoY แถมยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้พอสมควร มีหุ้นใหญ่ประกาศงบออกมา surprised ในทางลบหลายตัว เล่นเอาป้อมค่าย แตกพ่ายกันเป็นทิวแถว มองไปข้างหน้า แม้ภาคท่องเที่ยวจะดีแน่ๆ แต่อาจจะไม่สามารถ cover ภาคส่งออกที่ยอดลดลงได้
2. Fund Flow
กระแสแรงซื้อหุ้นของต่างชาติ... ปีที่แล้วซื้อสุทธิไป 2 แสนล้าน แต่มาปีนี้เหมือนเป็นคนละคนแหะ จาก YTD ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยไป 2.5 หมื่นล้าน เป็นการขายหนักในเดือนก.พ.นี่แหละจร้า (ขายไปเดือนเดียว 4.3 หมื่นล้าน) เราทราบกันดีว่า ตั้งแต่เรายกเลิก LTF ไป นักลงทุนสถาบันในประเทศก็แทบไม่มีแรงซื้อหุ้นไทยเลย กระแสแรงซื้อของต่างชาติเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญนะครับ
.
.
อย่างไรก็ตาม ผมเองยังเชื่อในกรอบเวลา 1-2 ปีว่า เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว เพียงแต่ในระยะสั้น เราต้องเจอกับปัจจัยลบบ้าง เช่น
-> กำไรบริษัทจดทะเบียนต่ำคาดและฟื้นช้า(กว่าใจคิด)
-> แรงกดดันจากเงินเฟ้อที่กดไม่ลง
-> แรงกดดันจากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น (อีกรอบ) ซึ่งปลายปีที่แล้วคิดว่าน่าจะปลายรอบของวัฏจักรดบ.ขาขึ้นแล้วนะ เอาจริงยังไปต่อแหะ FED อาจจะปรับขึ้นอีก 3 ครั้งไปสู่เป้าหมาย 5%อัพๆ นั่นเลย ซึ่งเกินคาด อ่านหัวข้อข่าวแล้วก็ร้อง อั๊ยยะ! เหมือนกันนะ [NEWS : The Fed delivers another jumbo rate rise, and it’s far from done]
-> แรงกดดันจากภาวะดอกเบี้ยสูงค้างเติ่งนาน การลดดอกเบี้ยคงไม่มีโอกาสได้เห็นในปีนี้
.
.
แล้วเราในฐานะนักลงทุนรายย่อยควรทำยังไง ???
แต่ละคนก็คงมีแผนที่ต่างกันนะครับ
บ้างถัว...บ้างล้างพอร์ต...บ้างซื้ออัดเต็มพอร์ตตลอดเวลา...
บ้างอยู่เฉยๆ...บ้างย้ายไปตปท. ฯลฯ
ก็ขอแชร์ในฐานะรายย่อยคนนึงนะครับ
1. ยังอยู่กับตลาดหุ้นไทยเป็นส่วนใหญ่เกิน 80% เหมือนเดิม ชินกับสนามนี้ เหมือนได้เตะบอลในแอนฟิลล์
2. พร่องหุ้นลงบางส่วน ถือเงินสดบ้าง ไม่ได้เต็มพอร์ตเหมือนธ.ค.
3. สับพอร์ต เปลี่ยนม้า บ้างบางเคส ในรอบประกาศงบที่ผ่านมา ซึ่งเปิดโอกาสในหุ้นหลายๆตัว ได้ฟังข้อมูล Outlook แล้วตัดสินใจได้
4. เริ่มปรับพอร์ตมาปันผลมากขึ้น เพราะกำลังเข้ารอบจ่ายปันผลประจำปีแล้ว และเผื่อว่าSETจะป้วนเปี้ยนกับเนินอาถรรพ์ 1600 จุดอีกนาน จะได้มีกระแสเงินสดเข้ามาสร้างความชื่นใจ