#แนวคิดด้านการลงทุน

แบงค์พันของพ่อ ความในใจสู่รุ่นน้อง Start-Up

โดย อธิป กีรติพิชญ์
เผยแพร่:
126 views

ตัวผมเป็นคน Gen X อายุอานามก็ไม่น้อย (41 ปี) ผ่านโลกผ่านชีวิตมาพอสมควร 

ช่วงนี้เผอิญได้พบเจอกับน้องๆที่กำลังเพิ่งจบ และกำลังจะจบ พอได้พูดคุยด้วยมากๆ ผมเริ่มที่จะเข้าใจปรากฏการณ์ ที่คนรุ่นใหม่ปฏิเสธการทำงานในระบบ ประมาณว่า... "เงินเดือนหมื่นห้ามันน้อย ความก้าวหน้ามันยากเย็น " อยากไปทำ Start-Up สายไอที เทคโนโลยี กะว่าจะเปลี่ยนโลกไปนู่นเลย 

อันที่จริง ผมสนับสนุนคนรุ่นใหม่ทำ Start-Up อย่างเต็มที่เลยนะ เพราะ Start-Up ก็คือการเป็นเถ้าแก่ SME ในสมัย 30 ปีก่อน นี้แหละ ที่เด็กจบใหม่ได้รับการสนับสนุนใหม่เริ่มกิจการ อย่างรุ่นพี่ลาดกระบังที่ผมเคยได้ยินว่า เริ่มต้นธุรกิจในช่วงนั้น (2528) กระทั่งเป็นเศรษฐีพันๆล้านตอนนี้ ก็มีพี่กังวาล เจ้าของ IRCP ทำรับเหมางานระบบ และ พี่เต่า FORTH ทำ PABX DSLAM ตู้บุญเติม ยี่ห้อคนไทย สามารถนำกิจการเข้า listed ในตลาดหลักทรัพย์ 

และตัวผมมีความไม่ลับจะบอกด้วย 

ผมเองก็เคยเป็นเถ้าแก่ dot com Start-Up ในสมัยปี 1999-2002 เหมือนกัน ตอนนั้นทำ website เพื่อสอนพิเศษ มันคือการ disrupt กิจการติวเตอร์ ด้วยการเรียนตัวต่อตัว ประสบการณ์ที่ผมได้รับมันมากมาย มี Profile ของติวเตอร์ หลายร้อยคน มีนักเรียนสนใจเรียนเป็นพันคน มีสถาบันการสอบเชิญผมไปช่วยออกข้อสอบ และโชว์หน้าในสื่อการศึกษา 

ชื่อโดเมนเนมของผมมีคนติดต่อขอซื้อ ... แต่ด้วยความที่ผมอยากทำให้มันยิ่งใหญ่มากกว่าจึงยังไม่สนใจ (สมัยก่อน กระแสการซื้อ Sanook.com ดังมากๆ) ผลสุดท้าย ทำไปเรื่อยๆ ก็ติดปัญหาเรื่อง Operation , Scale up ไม่ได้ และไม่สามารถทำเงินให้คุ้มค่าเงินลงทุนที่จะต้องทำ สุดท้ายเลยค่อยๆฝ่อไป พร้อมๆกับดอทคอมบับเบิลที่แตกดังโพล๊ะจากฟากอเมริกา 

พอมองย้อนกลับไป ก็พบว่าตอนนั้นความฝันมันเจิดจ้า แทบไม่มองทางถอย โชคดีที่พ่อแม่เข้าใจ ไม่กดดัน แถมตอนนั้นมีภาระค่าเทอมป.โทที่ธรรมศาสตร์ 2 ปี 2 แสน คุณพ่อเลยให้เงินเดือนช่วยผมอีก(เดือนละ 9,000) แม้ผมจะมีอายุ 25 แล้วก็ตาม 

ผมรับเงินเดือนจากพ่อ ทั้งๆที่สุดเกรงใจ และอับอายตัวเองมาก ตอนนั้นออกจากงานประจำมาแล้ว เลยต้องเร่งทำงานพิเศษหารายได้เลี้ยงตัวเอง และส่งค่าเทอมป.โทด้วย เพื่อไม่เป็นภาระของพ่อ สุดท้าย ประมาณไม่ถึง 1 ปี จากที่ออกมาทำเว็บเต็มตัว ผมกลับไปทำงานเป็นวิศวกรระบบโทรศัพท์ใหม่อีกครั้ง และเลือกที่จะเป็นมนุษย์ 2 อาชีพ ตั้งแต่นั้นมา

-> มีงานวิชาชีพวิศวกร เพื่อเลี้ยงตัวเองให้ได้ดี

-> และมีงาน Hobby (เว๊บไซท์ ลงทุน) เพื่อเติมเต็มจิตวิญญาณ 

ยังจำได้ว่า เงินเดือนสุดท้ายที่พ่อให้ ผมบอกพ่อว่า ผมขอรับ 1,000 บาทก็พอ ผมหยิบแบงค์พันออกมา น้ำตาคลอ บอกพ่อว่าเอาไว้เป็นที่ระลึก ว่าจะไม่ทำให้พ่อกังวลใจ ต้องให้เงินลูกชายอีก แล้วแบงค์พันใบนั้นไว้เตือนใจ เก็บไว้ในกระเป๋าตังค์เป็นที่ระลึกมาเกือบ 16 ปี 

ผมยังชอบแนวคิดคนรุ่นเก่าอยู่ ที่เชื่อว่า ถ้าจะประสบความสำเร็จ

ต้องพยายามแบบสุดๆ กัดไม่ปล่อย
ต้องอดทนรอคอย 
ต้องสะสมความบาดเจ็บ และ ประสบการณ์ดีร้าย
ต้องผิดพลาด โง่เขลา ผิดหวังบ่อยๆ

และมันจะพาเราไปสู่ความสำเร็จได้

น้องๆ ที่ทำ Start-Up ผมไม่สงสัยในความสามารถเลย ผมเจอคนเก่งทั้ง coding marketing และ ภาษาอังกฤษเป็นไฟ ไอเดียกระฉูดมาหลายคนละ แต่ Start up ก็อาจจะต้องมีช่วงล้มลุกคลุกคลาน กว่าจะเจอ VC (venture capital) หรือ raised funds ได้

นี่คือเกมของ ทัศนคติ + ความสามารถ + ความเพียร และ + โชค ก็เลยมาเล่าให้ฟัง ไอเดียมนุษย์ 2 อาชีพก็ไม่เลวนะ

อาชีพหนึ่งไว้เลี้ยงตัว อีกอาชีพไว้เลี้ยงจิตวิญญาณ เมื่อจิตวิญญาณเข้มแข็งพอ จะยังไงต่อก็ย่อมได้ครับ ^^

......................................................................

คอร์ส ติวหุ้นรวยด้วย VI

โดย คุณอธิป กีรติพิชญ์ (นิ้วโป้ง)

วันเสาร์-อาทิตย์ที่ 12-13 มีนาคม นี้!!

ดูรายละเอียด คลิ๊ก..


เจ้าของหนังสือ Best Seller “ติวหุ้น รวยด้วยวีไอ” และยังเป็นวิทยากรคอร์ส “ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐานแบบ Value/Growth Investor” ด้วยประสบการณ์ในตลาดทุนกว่า 17 ปี และประสบการณ์ในการเป็นติวเตอร์ บวกกับความเป็นคนอารมณ์ขัน  ทำให้คุณนิ้วโป้งสามารถถ่ายทอดเรื่องยาก อย่างการลงทุน ให้เข้าใจได้ง่าย และยังใช้ภาษา ลีลาที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจอย่างยิ่ง จึงทำให้ได้รับเชิญไปบรรยายในงานต่างๆ มากมาย

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง