1. เมื่อดูข้อมูลจำนวนผู้โดยสารระบบรถไฟประเทศไทยตอนนี้ ถือว่าระบบรถไฟฟ้า BTS (สายสีเขียว) และระบบรถไฟฟ้า MRT (สายสีน้ำเงิน) จัดว่าฟื้นคืนชีพมาใกล้สู่ช่วงก่อนเกิดโควิด (ก.พ. 2563) เรียบร้อยแล้ว
2. แม้บางท่านอาจจะแย้งว่า ก็ในระหว่าง 3 ปีนี้ มีการเปิดสถานีใหม่ตั้งเยอะ BTS เปิด หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต วันที่ 16 ธันวาคม 2563 ส่วน MRT ก็เปิดเส้นฝั่งธนฯให้ครบลูปช่วงต้นโควิด Q2 2563 พอดี นั่นย่อมทำให้จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยเพิ่มขึ้นสิ
อันนี้ก็ใช่ แต่ก็นะ มันก็คือ Project Expansion สุดท้ายจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันต้องเกินช่วงก่อนโควิดไปมากๆภายในปี 66 นี่แหละ มันคือมุมมองบวกเชิงพื้นฐานอยู่ดีครับ
3. อย่างข้อมูลในตาราง Daily Ridership ช่วงวันทำงานเดือนกุมภาพันธ์ 66 ของ BTS ทะลุวันละ 8 แสนคน ส่วน MRT ทะลุวันละ 4.5 แสนคน ถือว่ามาดีมากๆเลย ในขณะที่ค่าเฉลี่ยจำนวนผู้โดยสารต่อวันของ BTS ก.พ. 63 คือ 6 แสนกว่าเที่ยวคน
ผมไม่แน่ใจว่าที่คนเยอะช่วงสัปดาห์ที่แล้วนี่ มาจาก “งานเกษตรแฟร์” หรือเปล่าหนอ แต่ยังไงในภาพรวมปีนี้ก็โตครับ เพราะจำนวนนทท.ต่างชาติก็กำลังเติมเข้าระบบเรื่อยๆอย่างเห็นได้ชัด
4. ในเชิงหุ้น BEM ... นาทีนี้ ถือว่าดูมีความกลมกล่อมกว่า เพราะมีทั้งส่วนทางด่วน ที่ฟื้นตัวดีมาก และรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและม่วงที่ดีวันดีคืน แถมยังจ่อโครงการใหม่ สายสีส้มและม่วงใต้อีก
แต่ราคาหุ้น ก็ฟื้นตัวดีไปจ่อช่วงราคาก่อนเกิดโควิดแล้วเช่นกัน ที่จริงอัพไซด์ยังมีนะจากโครงการใหม่ที่รอเซนต์สัญญาอย่างสายสีส้ม ตอ. ตต. และ ม่วงใต้ จะเป็นอัพไซด์สำคัญ แต่แน่นอนว่า โครงการงานช้างแมมมอธขนาดนี้การเซนต์สัญญาต้องระดับครม. ซึ่งต้องรอหลังเลือกตั้ง รอร้าบานใหม่ รอรมต.ใหม่ และอดทนรอ อดทนรอ อดทนรอ
5. ในขณะที่ BTS เหมือนอยู่ในปีชง นับตั้งแต่เกือน ก.พ.ปีที่แล้ว ราคาหุ้นก็เป็นขาลงมาโดยตลอดแบบคนละทางกับ BEM เลย (ดังรูปเส้นกราฟสีน้ำเงิน K ขาขึ้น แต่สีเขียวเป็น K ขาลง) ซึ่งผมคิดว่ามีหลายเหตุผล ที่ทำให้ราคาหุ้น BTS ฟื้นตัวขึ้นช้ากว่าที่คาด
หนึ่ง...ประเด็นการต่อสัญญาสัมปทานสายสีเขียวหลักที่ สัญญาจะสิ้นสุดลงในปี FY2029 ยังคงค้างคาต่อไป ไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน
สอง ... ประเด็นมูลหนี้กทม.ที่ BTS ทำงานเดินรถส่วนต่อขยายแบบไม่เก็บเงินมานานปี แล้วมีเรื่องราวทวงหนี้ผ่านหน้าจอนั่นหล่ะครับ อันนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน
สาม...BTS นอกจากจะมีธุรกิจรถไฟฟ้าmass transit (MOVE) แล้ว ยังมีธุรกิจมีเดีย สื่อ ป้ายโฆษณา (MIX) และ Match ที่ลงทุนกับธุรกิจอื่นๆ ซึ่งยังไม่ฟื้นดี แถม BTS เองก็ต้องจัดสรรค่าใช้จ่ายการตลาดและการลงทุนเพื่อรองรับบริการต่างๆในอนาคตด้วย โดยเฉพาะธุรกิจดิจิทัลและการเงิน เช่น Rabbit ของ VGI, ธุรกิจประกันชีวิต Rabbit Life ของ Rabbit Holdings ไรงี้
สี่...BTS โปรเจ็คต์รถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองที่ก่อสร้างกันมานานก็จะเริ่มดำเนินงานในปี 2566 นี้แล้ว ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายจากการทดสอบเดินรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง ก่อนที่จะเริ่มเดินเปิดใช้จริงภายในกลางปีนี้
การทดสอบระบบคือการเปิดวิ่งซ้ำๆๆๆๆๆๆๆ แบบไม่มีรายได้เพื่อให้มั่นใจในระบบงานและความปลอดภัยนะ แถมช่วงเปิดบริการแรกๆไม่แน่ว่าจะให้ขึ้นฟรีแบบสายอื่นๆอีกไหม นี่ก็จะกดดันกำไรในปี 2565-66 ช่วงต้น
อย่างไรก็ตาม ยังคงเชื่อว่า พื้นฐานธุรกิจในเชิงผู้โดยสารที่ฟื้นตัว โครงข่ายรถไฟฟ้าที่เปิดเพิ่มเติม ป้ายโฆษณา Rabbit และธุรกิจอนาคตอื่นๆทั้งมอเตอร์เวย์ รวมทั้งสนามบินอู่ตะเภา ก็จะช่วยเรื่อง Growth Story ได้
แต่ขอย้ำว่า... ในระยะยาวนะ
หุ้นตัวนี้ใครลงทุนมานานๆจะรู้ว่าเขาเป็นจอมโปรเจคต์ บุกอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย นักลงทุนที่ถือหุ้นตัวนี้ จึงต้องมีมุมมองระยะยาว เพราะเป็นแฟนเขาต้องอดทน โปรเจคต์พี่เขามีเยอะเหลือเกิน
สรุปคือ ปัจจัยหนุนที่ชัดเจนในระยะสั้น ...มีน้อย
ปัจจัยหนุนระยะยาว... มีเยอะ