#มือใหม่เริ่มลงทุน

ในวันที่ COVID-19 กำลังจะครบรอบ 3 ปี

โดย อธิป กีรติพิชญ์
เผยแพร่:
350 views

ในวันที่ COVID-19 กำลังจะครบรอบ 3 ปี

1. หลายสิ่งที่ผมเคย (แอบ) กังวลว่า จะเปลี่ยนไปตลอดกาล(new normal) เพราะการปิดเมือง เอาจริงๆ มันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปขนาดนั้นนะ มนุษย์เรากลับมาสู่ Old Normal กันนี่แหละ
.
.
2. Shopping 
สมัยโควิด E-commerce เฟื่องฟูสุดๆ ทั้งผ่านแพลตฟอร์ม Lazada Shopee และซื้อผ่าน Social Media บนกลุ่ม Facebook (กลุ่มจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ marketplace) ผมจำได้ว่าซื้อของรัวๆสัปดาห์ละหลายๆครั้งเลย 
ตอนนี้ โดยส่วนตัวผมเหลือแต่ Lazada ละ อันนี้เลิกไม่ได้ ที่เหลือก็ซื้อในห้าง เดินห้าง เดินซุปเปอร์ เดินตลาดแถวบ้าน เที่ยวตลาดดอนหวาย เหมือนเดิมนี่แหละ ไปเดินไม่กลัวโควิดแล้วจร้า 
.
.
3. กินข้าวนอกบ้าน 
ช่วงโควิด 1 ปีแรก ยอมรับว่ามีความกังวลกับการกินข้าวนอกบ้านมาก ยิ่งข่าวบอกว่าการติดมาจากตอนถอดหน้ากากกินข้าว โอ้โห นี่ยิ่งไม่กล้ากินเลย ก็สั่งอาหารให้มาส่งเอาครับ หรือโทรไปสั่งที่ร้านแล้วโฉบรับกลับมากินที่บ้าน 
ตอนนี้ไม่มีละจร้า กินนอกบ้านล้วนๆ ไอ้ที่เคยเช็ดมือ ฉีดมือ ใช้ช้อนส้อมตะเกียบแบบใช้แล้วทิ้งเท่านั้น นี่ก็ไม่ละจร้า 
และขอย้ำว่า เส้นเล็กแห้งยำ ราเม็งผัดแห้ง หรือราเม็งน้ำ ล้วนต้องกินที่ร้านเท่านั้น สั่งมากินคือคุณภาพดรอปเกิน 30% ทำใจไม่ได้จร้า กลับมา Old Normal เต็มๆ 
.
.
4. เดินทาง 
ตอนนั้นกลัวการเดินทางในพท.ปิด ไม่เปิดโล่ง ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า รถแท็กซี่ เครื่องบิน ฯลฯ คือกลัวว่าจะติดโควิดในนั้น ถ้าจะขึ้นก็ต้องรักษาระยะห่าง นั่งที่เว้นที่ หรือยืนไกลๆกัน ไรงี้ 
ตอนนี้เดินทางแทบทุกวัน เกินครึ่งใช้ Public Transport ก็ไม่กลัวละจร้า 
.
.
5. ทุกอย่างที่ว่ามา ตัวผมเองกลับมาสู่ Old Normal แล้ว สมมติว่าคนส่วนใหญ่ก็คิดและทำเหมือนกัน 
นั่นหมายความว่าหุ้นที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับสิ่งเหล่านี้ มีโอกาสกลับไปสู่ผลงานระดับ Pre-Covid ปี 2019 ได้ 
แต่มีสิ่งนึงที่ผมเชื่อว่า เกิด New Normal ขึ้นมาจริงๆ 
นั่นคือการ Work From Anywhere 
.
.
6. ดูเหมือนว่า องค์กรทั่วโลกจำนวนมากมาย ค้นพบแล้วว่า พนักงานไม่จำเป็นต้องมานั่งทำงานที่ออฟฟิศ 9AM to 5PM ทุกๆวัน แต่ก็สามารถส่งมอบผลงานได้ 
หน้าฝนที่ผ่านมา บ้านใครน้ำท่วมหรือเมื่อคืนกลับบ้านดึกมากกเพราะฝนตกหนัก อีกวันก็ร่วมประชุมโดย MS Team หรือ Zoom ได้เลย คุณภาพชีวิตดีกว่า ให้ความ Fresh มากกว่าอีก 
ตัวพนักงานจะอยู่ที่ไหนก็ได้ บ้าน ร้านกาแฟปากซอย สตาบัคส์ในห้าง หรือแม้แต่โรงแรมต่างจังหวัด ตราบใดที่ยังส่งมอบเนื้องานได้ อีเมลล์แล้วตอบ โทรไปแล้วรับ ถามอะไรตอบได้ รู้เรื่อง ตามงาน ฯลฯ 
ถึงเวลานัดให้มา Physical Meeting ก็มารวมกัน สัปดาห์ละ 1-3 วันว่าไป 
.
.
7.
แบบนี้ลูกจ้างแฮปปี้ เพราะเดินทางมาออฟฟิศทีนีงนี่ ค่ารถไฟฟ้าไปกลับก็มีเป็นร้อย ไหนจะกาแฟ ไหนจะอาหารกลางวัน โดยเฉพาะเรื่องค่าครองชีพสมัยนี้แพงขึ้น ค่าอาหารแถวออฟฟิศ มักจะแพงกว่าแถวบ้านเสมอ 
แบบนี้เจ้านายก็ชอบ เพราะได้เนื้องานเหมือนเดิม (หรือใกล้เคียงเดิมที่สุด) โดยประหยัดต้นทุนค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่ากาแฟ สำนักงานได้เยอะ 
.
.
8. 
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง.... ไม่ต้องรักษา "พื้นที่ออฟฟิศ" ที่ต้องเช่าไว้เยอะๆ
หลายองค์กรที่รู้จักตอนนี้ ขนาดของพื้นที่และเก้าอี้ออฟฟิศ เพียงพอสำหรับพนักงาน 50% เท่านั้นละครับ เพราะได้ทยอยคืนพื้นที่ไปตลอดช่วงโควิด 3 ปีที่ผ่านมา 
.
.
9.
ถ้าการทำงานแบบ Hybrid คือ ไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน แต่ต้องมาสัปดาห์ละ 1-3 วันต่อสัปดาห์เวียนๆกันไป กลายเป็น New Normal (จบโควิดแต่สิ่งนี้ไม่จบ) ขึ้นมาจริงๆ 
สิ่งนี้จะกระทบการลงทุนในกองรีท ประเภทที่เป็นพื้นที่สำนักงานให้เช่านะ เพราะแต่เดิม หลายกองจะเจอ Competition ที่เป็นอาคารสูงสร้างใหม่ ที่จะทยอยเสร็จอีกมาก 
ทำให้มี Occupancy Rate ต่ำลง และไม่สามารถขึ้น Rental Fee ได้ด้วย 
.
.
10. คหสต. 
กองรีทอาคารสำนักงาน ดูมีความเสี่ยงเรื่อง Hybrid Work สูงอยู่ 
ในขณะที่กองรีทอุตสาหกรรม หรือ กองรีท Retail มีความเสี่ยงต่ำกว่ามาก 
การเลือกลงทุนในกองรีทเพื่อหวังเงินปันผล จึงต้องมองแนวโน้มอนาคตด้วย ดูจาก % Dividend Yield ในเว็บไม่ได้เลย 
เพราะเป็นข้อมูลเงินปันผลในอดีตจร้า 


เจ้าของหนังสือ Best Seller “ติวหุ้น รวยด้วยวีไอ” และยังเป็นวิทยากรคอร์ส “ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐานแบบ Value/Growth Investor” ด้วยประสบการณ์ในตลาดทุนกว่า 17 ปี และประสบการณ์ในการเป็นติวเตอร์ บวกกับความเป็นคนอารมณ์ขัน  ทำให้คุณนิ้วโป้งสามารถถ่ายทอดเรื่องยาก อย่างการลงทุน ให้เข้าใจได้ง่าย และยังใช้ภาษา ลีลาที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจอย่างยิ่ง จึงทำให้ได้รับเชิญไปบรรยายในงานต่างๆ มากมาย

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง