หุ้น MASTER เข้าตลาดแล้ว 👨‍⚕
สรุปประเด็นสั้นๆ ที่อาจจะยังไม่ได้มีคนพูดในรายละเอียดกันครับ
.
จุดเด่น
1. หมอเส เจ้าของเก่งมาก ดูจากการพูด วิธีการคิด และหลักการในหนังสือที่หมอเขียน เรียกได้ว่า ทุกอย่างผ่านกระบวนการคิดมาก่อนล่วงหน้าว่าจะพา MASTER โตต่อไปอย่างไร หมอเสใช้หมดตั้งแต่ Principle, 7 Habits, BCG, Sport Team ไปจนถึง The Devil is in the details.
.
2. ธุรกิจอยู่ในเทรนด์ของการเติบโต มูลค่าตลาดศัลยกรรมประมาณ 40,000 ล้านบาท โต 15-20% MASTER เพิ่งจะแค่ 1,000 ล้านนิดๆ เอง ยังเติบโตได้อีกมาก คู่แข่งหลักๆ 70% โรงพยาบาล 30% คลินิกความงาม
.
3. Business Model ปั้นหมอ 41 ท่าน และสร้างทีมขาย 30 GM 30 Product คือ คัดหมอเก่งระดับนึงเข้ามาก่อน พัฒนาต่อทั้ง soft และ hard skill แล้วปั้นให้ดังในแต่ละด้าน ส่วนทีมการตลาดเดิมทำรวม ตอนนี้แยกหัตถการ ใครมีไอเดียอะไร ลองทำได้เลย ก็จะเป็นการกระตุ้นให้ทำงานแบบ active สร้างผลงานที่ดีออกมาได้
.
4. เพิ่ม Capacity จากห้องผ่าตัด 7 เตียง เป็น 17 เตียง เพราะปัจจุบันใช้ Utilization Rate ไป 93% แล้ว ห้องพร้อมใช้เดือนพฤษภาคมปีนี้ ไอเดียในการหา valuation เราอาจจะเอารายได้ผ่าตัดต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยมาคิดก็ได้ ตอนนี้อยู่ที่ 30,200 บาท ต่อชั่วโมง 
.
5. เงินทุนหมุนเวียนหลัง IPO 1,780 ล้านบาท ทำได้หลายอย่าง มีที่ 3 ไร่ ติดกัน สร้างตึกใหม่ได้ หรือถ้าเห็นโอกาสทำ M&A โรงพยาบาลได้ ซื้อคลินิกเสริมความงามก็ได้
..
====================
..
จุดที่ต้องคิดต่อ
.
1. ถ้าวันไหนหมอเสเลิกทำต้องดูว่า ระบบที่วางไว้จะรันต่อเองได้ไหม แต่หมอยังหนุ่ม อายุไม่ถึง 40 เลย คิดว่าน่าจะยังทำได้อีกนาน และเหมือนพี่ดาว ที่เป็นรอง CEO ก็ทำงานคู่กันมาตลอด รู้เรื่องหมดทุกอย่างอยู่แล้ว

2. Valuation ถ้าดู Trailing P/E 37 เท่า แปลว่า ต้องโตระดับ 30-40% ให้ได้ทุกปี ตลาดถึงจะชอบ และปรับ P/E ให้ได้มากขึ้นไปกว่านี้ ที่คิดว่าแพงก็อาจจะไม่แพง แต่ถ้าปีไหนโตลดลงเหลือ 15-20% ก็อาจจะเป็นความผิดหวังแทนได้
.
3. ความสม่ำเสมอของรายได้และกำไรว่าจะสะดุดมั้ย มีจุดที่น่าสังเกต คือ
.
... ศัลยกรรมจมูกโตดีต่อเนื่องมาตลอด เรียกได้ว่าเป็นจุดขายของ MASTER มีหมอเก่งๆ หลายคน 
... ศัลยกรรมหน้าอกและดูดไขมัน มีแผ่วลงปี 64 ก่อนที่จะกลับมาดีปี 65 เป็นเรื่องที่ต้องติดตามความต่อเนื่อง
... ศัลยกรรมด้านอื่นๆ โตเยอะ เช่น ตา โหนกแก้ม หนังน่าท้อง แต่ไม่รู้ว่าจะแผ่วลงมั้ย (แต่ยังมีหัตถการอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำก็จะมาช่วยขยายขอบเขตได้อีก)
.
4. กำไรที่เติบโตมาจากการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านต่างๆ ต้องดูว่าปีต่อๆ ไปจะทำอะไรเพิ่มได้อีก เช่น
.
ปี 63 เปลี่ยนรูปแบบการจ้างวิสัญญีแพทย์จากรายชั่วโมงเป็นรายเดือน มีการทำศัลยกรรมจมูกแบบเปิดได้รับความนิยม และมีค่าบริการที่สูงกว่า
.
ปี 64 เพิ่มแพทย์เป็น 28 คน แพทย์มีรายได้การันตีขั้นต่ำ และได้เปอร์เซ็นต์เพิ่มตามเคสที่ทำ แต่ไม่มีเงินเดือน
.
ปี 65 เพิ่มแพทย์ เป็น 41 คน เพิ่มชั่วโมงการผ่าตัดจาก 12 เป็น 15 ชั่วโมง ต่อวัน เพิ่มพนักงานการตลาด และเปลี่ยนรูปแบบจากเดิมทำเป็นทีม เป็นแยกกันทำตามหัตถการ มีอาจารย์แพทย์จากเกาหลี 3 ท่าน สถาบัน KCCS และ Face Design มาช่วยฝึกอบรม
.
ปี 66 เพิ่มห้องผ่าตัดจาก 7 เป็น 17 ห้อง พร้อมใช้งานเดือนพฤษภาคม ตีกลมๆ ก็ครึ่งปี
ปี 67 ใช้งาน 17 ห้องได้เต็มทั้งหมด และเต็มปี

ใครสนใจลองทำการบ้านกันดูนะครับ อย่าลืมว่าการลงทุนมีความเสี่ยง 
วิตามินหุ้นเพียงให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจเท่านั้น โปรดตัดสินใจด้วยความรอบคอบ