นักลงทุนที่เข้ามาศึกษาเรื่องกราฟเทคนิคอล มักจะให้ความสำคัญกับ Indicator มากกว่า Price Pattern ที่อยู่ในรูปแบบของกราฟแท่งเทียน เช่น

- ให้ความสำคัญกับ MACD โดยท่องจำว่าตัดขึ้นซื้อ ตัดลงขาย
- ดูแต่ RSI ถ้ามากกว่า 70 คือเป็นจังหวะขาย หรือต่ำกว่า 30 คือจังหวะซื้อ
- หรือใช้เส้นค่าเฉลี่ยง่ายๆ ยืนเหนือเส้นคือขาขึ้น ยืนใต้เส้นคือขาลง ...
 

แต่สิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันคือ รูปแบบของราคา หรือ Price Pattern
 

ถ้าเราเอาคำว่า "candlestick price patterns" รูปแบบของกราฟแท่งเทียนไปค้นหาใน Google จะเจอรูปแบบมากมายเต็มไปหมด ซึ่งไม่ได้มีความจำเป็นต้องท่องจำ แต่เราควรจะเข้าใจ "พฤติกรรม" มากกว่า 

หมายความว่า พฤติกรรมของราคาที่ทำให้เกิด Pattern  เป็นเรื่องที่สำคัญกว่า 
 

ในมุมของการเก็งกำไรแล้ว Price Pattern จะมีลักษณะเหมือนกัน คือ เหวี่ยงตัว บีบตัว และสิ้นสุดด้วยการ Breakout 

เมื่อเรามองเหวี่ยงตัว บีบตัว และ Breakout จะทำให้สิ่งที่เราต้องเข้าใจตามมาติดๆ คือ แนวรับ และแนวต้าน

... ทำไมหุ้นลงมาถึงแนวรับแล้วเด้ง ? 
... ทำไมหุ้นชนแนวต้านแล้วลง ? 
... ทำไมหุ้น Break แนวต้าน แล้วถึงพุ่ง ? 

สิ่งนี้ เราเรียกว่าจิตวิทยาของแนวรับ และแนวต้าน 

เหวี่ยงตัว จนถึงบีบตัวเพื่อให้เกิดแนวรับ แนวต้าน สะสมกำลังมากพอเพื่อที่จะ Breakout
 

ทำไมพอราคาหุ้นมาถึงแนวรับแล้วเด้ง ต้องทดสอบแนวรับก่อน 1 ครั้ง แล้วอาจจะลงต่อหรือเด้งเข้าสู่ไซด์เวย์ และปรับตัวเป็นเทรนด์ขาขึ้น
 

ทรงกราฟจังหวะของการบีบตัว หลายๆครั้งเรามักจะเจอกับสัญญาณหลอก (False Breakout) 
ดังนั้น ต้องตั้งจุด Stop loss ทุกครั้ง

หรือหุ้นอีกตัว พอชนแนวต้าน มันจะไม่ Break ทันที แต่จะทดสอบก่อน ปรับตัวลงมาก่อนเพื่อสะสมกำลัง บีบตัวทะลุผ่านขึ้นแนวต้าน เพราะฉะนั้นเวลาดู Price Pattern รูปแบบราคา อย่าลืมดูแนวรับ - แนวต้าน จะช่วยให้จังหวะการเข้าออกของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น
 

พูดง่ายๆคือ ถ้ามัน Break ขึ้น เราก็ซื้อ ถ้ามัน Break ลง เราก็ขาย

รอกราฟนำ แล้วเราค่อยตาม แต่อย่าลืมตั้งจุด Stop loss หยุดความเสียหายทุกครั้งครับ

ก้าวแรกสู่ Technical รู้ครบเทรดง่ายแบบพอดีตัว

สำหรับผู้ที่สนใจการเทรดอยู่แล้ว หรือเคยเทรดมาบ้างแล้วแต่ยังไม่สำเร็จ

อาจมีบางอย่างที่คุณพลาดไป หรือที่ผ่านมาคุณอาจจะ "เทรดด้วยหู" มาโดยตลอด
นั่นคือการฟังแต่คนอื่นจนลืมให้ความสำคัญกับความจริงที่เกิดขึ้น

หลักสูตรนี้ คุณจะได้วิธีการที่มีเหตุ มีผล ดูง่าย เข้าใจชัดเจน พื้นฐานแน่น และสามารถลงมือสร้างกำไรด้วยตัวเองได้จริง