#แนวคิดด้านการลงทุน

อนาคตพลังงานสะอาดของเมืองจีนและโลก

โดย ธีรัตม์ กฤตยาภัทร
เผยแพร่:
234 views

จีนก้าวขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เริ่มสร้างจุดแข็งเรื่องเทคโนโลยีพลังงานสะอาดให้โลกเห็นแล้วนะครับ ไม่ว่าจะเป็นพลังงานหมุนเวียนอย่างพลังงานแสงอาทิตย์ หรือพลังงานลม นอกจากนี้ยังริเริ่มตั้ง "Green Bond" ขึ้นมาเพื่อแสดงถึงความผู้นำที่ต้องมีบทบาทรับผิดชอบต่อโลก ในฐานะเศรษฐกิจอันดับ 2

แต่ที่ไม่ธรรมดาคือ จีนกำลังวางแผนใหญ่ เพื่อสร้างแหล่งพลังงานใหม่ขึ้นมาอีกหนึ่งอย่าง ซึ่งจะให้พลังงานสะอาดได้อย่างมหาศาล รองรับความกระหายการใช้พลังงานในประเทศที่มีประชากรผู้บริโภคสูงสุดในโลก...มันคือ พลังงานนิวเคลียร์ ครับ

ในรอบปีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เดินทางไปเยี่ยมเยียนผู้นำประเทศรอบโลกมากมาย และหนึ่งในเรื่องที่คุยกันก็หนีไม่พ้นเรื่องของ "New Energy" ซึ่งถ้ามองไปถึงประเภทของพลังงานก็จะพบว่าเป็นเทคโนโลยีนิวเคลียร์นะครับ

จีนเองหวังจะสร้างเทคโนโลยีนิวเคลียร์ด้วยเทคโนโลยีของตัวเองให้ทันสมัยและมีความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง ก่อนจะ "ส่งออก" เทคโนโลยีของตัวเองออกไป เพื่อเอาชนะประเทศที่เป็นผู้นำด้านการสร้างเทคโนโลยีนิวเคลียร์อย่างฝรั่งเศสให้ได้ 

ในขณะนี้มีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์กว่า 28 แห่งในจีน ซึ่งมีกำลังไฟฟ้าติดตั้งอยู่ที่ 25.5 กิกะวัตต์ (หรือ 25.5 พันล้านวัตต์) ในร่างแผน 5 ปีฉบับที่ 13 ของจีน (2016-2020) มีการประมาณกันว่าจีนจะสร้างเตาปฏิกรณ์เพิ่ม 5-6 เตาทุกๆปีจากปี 2016-2030 และจะทำให้สัดส่วนของพลังงานนิวเคลียร์ต่อพลังงานทุกประเทศโตถึง 4 เท่า! จาก 2% เป็น 8%

จะสังเกตว่าจีนเป็นประเทศที่กล้าออกมาประกาศเป้าหมายอย่างชัดเจน และเด็ดขาดมาตลอด และมักจะทำได้จริงครับ ตั้งแต่การวางแผน 5 ปีที่มีมาตลอดจนตอนนี้ฉบับที่ 13 แล้ว ก็อดคิดไม่ได้ว่าจีนจะใช้ 3 บริษัทชั้นนำที่สุดเรื่องนิวเคลียร์อย่าง China General Nuclear Corp. (CGN), China National Nuclear Power Group (601985:CH) และ China Nuclear Engineering Corporation (CNEC) ร่วมกันสร้างมันขึ้นมาให้ได้จริงๆครับ

เรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นเรื่องที่ยากในงานวิศวกรรมและความปลอดภัย แม้กระทั่งผู้ผลิตชั้นนำของโลกในฝรั่งเศสเองก็ยังเจอปัญหาความล่าช้าในการเดินเครื่องไม่น้อย นอกจากนี้เอง ความเชื่อของคนทั่วไปเรื่องความเสี่ยงของนิวเคลียร์คงใช้เวลาอย่างมาก ในการขึ้นโปรเจคใหม่ๆนะครับ

อยากจะมาแชร์กันนะครับว่า...แม้แต่บริษัทผลิตพลังงานไฟฟ้าชั้นนำของไทยเองอย่างบริษัทราชบุรีผลิตไฟฟ้าโฮลดิ้งส์ก็เข้าไปมีส่วนร่วมกับการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เช่นกัน ราชบุรีได้เข้าไป Joint Venture กับ China General Nuclear (CGN) และ Guangxi Investment Group (CIG) เพื่อพัฒนาโครงการชื่อ Fangchenggang NPP Phase II ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท

CGN ถือเป็นผู้นำเรื่องเทคโนโลยีนิวเคลียร์อันดับหนึ่งของจีน ด้วยกำลังการผลิตติดตั้งถึง 17 กิกะวัตต์ และบริหารเตาปฏิกรณ์กว่า 16 หน่วยในโรงไฟฟ้าทั่วจีน ถือครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดกว่า 60%

นอกจากนี้ยักษ์ใหญ่อย่าง CGN ยังลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และพลังงานสะอาดหลายโปรเจคในเอเชียและยุโรป รวมถึงพลังงานน้ำ พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์อีกมากมายครับ

ในเวทีระดับโลก อีกบริษัทหนึ่งอย่าง China Nuclear Engineering Corporation (CNEC) ก็มีบทบาทอย่างมาก ล่าสุดบริษัทเซ็นบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of understanding หรือ MOU) กับซาอุดิอาระเบีย ดูไบ แอฟริกาใต้ และอีกหลายประเทศ เพื่อโปรโมทเทคโลโลยีนิวเคลียร์ชื่อ "HTR" ซึ่งมีการศึกษาทดลองกันมากว่า 30 ปีจนสำเร็จ เพื่อให้แผน 5 ปีครั้งที่ 13 สำเร็จลุล่วง และสร้างภาพลักษณ์ของจีนให้เป็นผู้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยสูงในเรื่องพลังงานสะอาด ผู้นำจีนอย่างสี จิ้นผิงจะนำอนาคตของ CGN, CNNC และ CNEC ให้ก้าวไปข้างหน้าได้อีกมากแน่นอนครับ

ไม่ว่าสี จิ้นผิงจะไปที่ไหน ไม่นานก็จะมีเรื่องพลังงานสะอาดโดยเฉพาะพลังงานนิวเคลียร์ และจบที่ดีลโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ตามมา เริ่มที่อาร์เจนติน่า อังกฤษ และสุดยอดผู้นำตะวันออกกลางอย่างซาอุดิอาระเบีย...มาดูกันครับว่าใครจะเป็นประเทศต่อไป?

เกมส่งออกนิวเคลียร์ของแดนมังกรเริ่มขึ้นแล้วครับ!

ขอบคุณข้อมูลจาก China Daily และ World-nuclear-news.org

ขอบคุณภาพจาก chinadialogue.com

บทความโดย บูม / FB: MoneyCrown

 


ผู้ก่อตั้งแฟนเพจ MoneyCrown ที่เน้นสาระความรู้และการวิเคราะห์บริษัทจากปัจจัยพื้นฐาน โดยเน้นหุ้นเติบโต (growth stock) ที่ราคาสมเหตุสมผล มีเงินปันผลสูง และเติบโตต่อเนื่อง

ประสบการณ์การทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านการจัดการ (Management Consulting) ที่ประเทศไทย ประเทศอังกฤษ และสหรัฐอเมริกา

ประวัติการศึกษา:

- ปริญญาตรี: คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

- ปริญญาโท: MS in Management, Cass Business School, London

- ปริญญาโท: MS in Management Science & Engineering, Columbia University in the City of New York

นอกเหนือจากความสนใจหาหุ้นที่น่าสนใจโดยอาศัยวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานแล้ว ยังสนใจการลงทุนในต่างประเทศเป็นพิเศษ โดยเฉพาะตลาดจีน ตลาดอเมริกา เทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงเรื่องราวของ tech startup ที่อเมริกาอีกด้วย

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง