ถือเป็นหุ้นที่นักลงทุนจับตากันเป็นอย่างมากสำหรับ โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ (MOSHI) โดยมีกำหนดราคาขายหุ้น IPO ที่ 21 บาท/หุ้น จองซื้อ 14-16 ธ.ค.65
และคาดว่าจะเข้าเทรดในตลาด SET ในวันที่ 22 ธันวาคม ที่จะถึงนี้

ชื่อว่า "โมชิ โมชิ" ฟังดูแล้วเหมือนจะเป็นญี่ปุ่น แต่จริงๆแล้วเป็นบริษัทของคนไทย สัญชาติไทย ที่มีจุดเริ่มต้นในปี 2516 โดยครอบครัวทำร้านค้าปลีกประเภทเครื่องเขียนและกิ๊ฟช็อป ก่อนจะทำมาเป็นร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ ในปี 2559 ในชื่อร้านว่า Moshi Moshi สาขาแรกที่สำเพ็ง
เราต้องเข้าใจก่อนว่า สินค้าประเภทไลฟ์สไตล์ เป็นตลาดที่มีผู้เล่นจำนวนมาก แข่งขันทางด้านราคากันสูงทำให้ยากที่จะทำกำไร รวมถึงจุดคุ้มทุนได้ 
แต่ในฐานะที่ Moshi Moshi เป็นผู้เล่นรายใหญ่ และเป็นบริษัทคนไทย เข้าใจความต้องการของคนไทยมากกว่าจึงได้เปรียบ และสามารถเอาชนะคู่แข่งได้

อ่านมาถึงตรงนี้ เราจะพบว่า Moshi Moshi มีจุดที่น่าสนใจมาก ...
แต่ก่อนที่จะเข้าซื้อหุ้น MOSHI นี้เป็น 4 ข้อที่นักลงทุนต้องทำความเข้าใจก่อนครับ

1. บริษัททำธุรกิจอะไร 
MOSHI ทำธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าที่ตอบสนองต่อลักษณะการใช้ชีวิตประจำวัน ที่เรียกว่า "สินค้าไลฟ์สไตล์" มีความหลากหลาย ทันสมัย เน้นคุณภาพ ในราคาที่ย่อมเยาเป็นหลัก ภายใต้ชื่อทางการค้า Moshi Moshi

บริษัทมีช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย ได้แก่ 
1. เครือข่ายสาขาของบริษัทฯ ซึ่งครอบคลุมทุกภูมิภาค 
2. ช่องทางออนไลน์ Shopee และ Lazada
3. ร้านป๊อปอัพ สโตร์  ซึ่งเป็นร้านค้าที่จัดขึ้นชั่วคราวบริเวณพื้นที่ส่วนกลางของห้างสรรพสินค้า
ปัจจุบัน MOSHI มีสินค้า 12 กลุ่ม จำนวนสินค้า (SKUs) รวมกว่า 20,000 SKUs

นอกจากนี้ บริษัทยังขยายร้านแบบใหม่ใช้ชื่อว่า "GIANT" เน้นไปที่กลุ่มเครื่องเขียน กระเป๋า และของใช้ในบ้านที่เน้นการใช้งาน (Function) ในชีวิตประจำวัน และราคาย่อมเยา มากกว่าการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์

2. ผลประกอบการย้อนหลัง 
โครงสร้างรายได้ของบริษัทแบ่งออกเป็น 
... รายได้จากร้านค้าปลีก คิดเป็น 85%
... รายได้จากร้านค้าปลีกแบบมีส่วนลด คิดเป็น 13%
... รายได้จากป๊อปอัพ สโตร์ คิดเป็น 0.15%
... รายได้จาก E-Commerce คิดเป็น 0.79%
... รายได้อื่นๆ เช่นส ดอกเบี้ยเงินฝาก ค่าเช่า คิดเป็น 0.32%

ผลประกอบการที่ผ่านมา
ในปี 2562 บริษัทมีรายได้ 1.70 พันล้านบาท กำไรสุทธิ 311.19 ล้านบาท
ในปี 2563 บริษัทมีรายได้ 1.36 พันล้านบาท กำไรสุทธิ 101.13 ล้านบาท
ในปี 2564 บริษัทมีรายได้ 1.26 พันล้านบาท กำไรสุทธิ 131.27 ล้านบาท
.
ในปี 2564 ผลประกอบการ 9 เดือนบริษัทมีรายได้ 788.4 ล้านบาท กำไรสุทธิ 46 ล้านบาท
ในปี 2565 ผลประกอบการ 9 เดือนบริษัทมีรายได้ 1.25 พันล้านบาท กำไรสุทธิ 134 ล้านบาท
โดยบริษัทมีอัตรากำไรขั้นอยู่ราวๆ 51-53%
และอัตรากำไรสุทธิอยู่ราวๆ 11%

3. วัตถุประสงค์การใช้เงิน
จากข้อมูล Filling บริษัทคาดว่าน่าจะได้เงินจากการระดมทุนราวๆ 1.575 พันล้านบาท โดยมีความต้องการใช้เงิน แบ่งออกเป็น
1. ใช้เป็นเงินทุนในการขยายสาขา 400 - 450 ล้านบาท
2. เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ 55.99 - 105.99 ล้านบาท
3. ชำระคืนเงินกู้ 754.01 ล้านบาท
รวม 1.26 พันล้านบาท 
*** เป็นการประมาณการข้างต้นของบริษัท โดยแผนการใช้จริงอาจจะแตกต่างกันออกไป

4. ราคา IPO 21 บาท/หุ้น คิดเป็น PE Ratio 28.66 เท่า แพงไปหรือยัง ? 
คำถามสุดท้ายที่นักลงทุนสนใจ คือ การขาย IPO ที่ราคา 21 บาท คิดเป็น P/E Ratio ที่ 28.66 เท่า ราคาแพงไปหรือยัง
... จากข้อมูลเบื้องต้น ไม่มีบริษัทจดทะเบียนบริษัทไหนที่มีธุรกิจ "ใกล้เคียง" กับ MOSHI ดังนั้น ราคานำเสนอขายเกิดจากการสำรวจความต้องการซื้อ
และการใช้ข้อมูลจากกลุ่ม Commerce ประกอบการตั้งราคา
... ผลประกอบการ 12 เดือนย้อนหลังของ MOSHI อยู่ที่ 219.82 ล้านบาท 
ซึ่งถ้าคิดจาก EPS จะได้ 0.73 บาทต่อหุ้น เมื่อนำมาหาค่า P/E จะได้อยู่ที่ 28.66 เท่า

ดังนั้น การที่จะบอกว่าหุ้น MOSHI มี P/E ที่ 28 เท่า แพงไปแล้ว ก็อาจจะด่วนสรุปเกินไป
นักลงทุนอาจจะต้องติดตามผลประกอบการครั้งล่าสุดที่จะเกิดขึ้นว่าออกมาในทิศทางไหน
เพราะถ้ากำไรเติบโต ค่า P/E จะลดลงเอง
แต่เชื่อว่าด้วยศักยภาพของบริษัท และการเจาะกลุ่มวัยรุ่นที่มีกำไรซื้อ บริษัทจะยังไปได้อีกไกลครับ

อนึ่ง MOSHI เป็นผู้นำในตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ ด้วยส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 37.6% โดยตอนนี้มีสาขา 101 สาขา ครอบคลุม 41 จังหวัด โดยแบ่งออกเป็น
ร้าน Moshi Moshi 98 สาขา
ร้านค้าปลีกแบบมีส่วนลด Moshi Moshi  2 สาขา 
ร้านค้าปลีก GIANT 1 สาขา

-------------------------------------
Reference

ข้อมูล Filling : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

THE STANDARD WEALTH

ลงทุนแมน

ฐานเศรษฐกิจ