เมื่อไม่กี่วันก่อน เราพอจะได้ยินข่าวมาบ้างว่า TESLA เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และนำรถมาขายคนไทยถึง 2 รุ่นด้วยกัน คือ
Tesla Model 3 ราคา 1.759 - 2.309 ล้านบาท
Tesla Model Y ราคา 1.759 - 2.509 ล้านบาท
เป็นการจองผ่านหน้า Website หรือที่ Store ที่สยามพารากอน ซึ่งตอนนี้มียอดจองไปแล้วราวๆ 8 พันคัน ในการเปิดตัว 5 วัน
ไม่เพียงแค่นั้น ยอดจองรถในงาน Motor Expo 2022 เพิ่มสูงขึ้นถึง 16% มาอยู่ที่ 36,679 คัน ซึ่งสูงกว่าครั้งก่อน
โดยส่วนใหญ่รถไฟฟ้าจะได้รับความนิยมและเติบโตอย่างโดดเด่นกว่ารถที่ใช้น้ำมัน เช่น
BYD มียอดจอง 2,714 คัน
Nissan มียอดจอง 2,478 คัน เพิ่มขึ้น +141% yoy
GMW มียอดจอง 1,995 คัน เพิ่มขึ้น +130% yoy
ถามว่า การเข้ามาของ TESLA รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าค่ายอื่นๆ บอกอะไรเรา ?
คำตอบ คือ สิ่งเหล่านี้บอกเรา 2 ประเด็นด้วยกันคือ
1. ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคไทยฟื้นตัวขึ้นมาก และจะดีขึ้นในระยะถัดไป หลังสถานการณ์ COVID ไม่น่ากังวล พร้อมกับการเดินหน้าเปิดประเทศ
2. เห็นพัฒนาการเปลี่ยนผ่านจากรถใช้น้ำมัน ไปเป็นรถไฟฟ้ามากขึ้น
สิ่งที่นักลงทุนไทยต้องรู้ คือ ถ้ากระแส EV เติบโตอย่างเด่นชัด หุ้นกลุ่มไหนจะได้ประโยชน์ ?
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส ได้แบ่งหุ้นที่ได้ประโยชน์ออกเป็น 4 กลุ่มด้วยกัน คือ
1. กลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
2. กลุ่มสินเชื่อ และประกันรถยนต์
3. หุ้นที่ทำสถานีชาร์ต และแบตเตอร์รี่
4. หุ้นที่ติด ESG และได้เข้าดัชนี Dow Jones Sustainability Index ซึ่งหุ้นไทยมีทั้งหมด 26 บริษัท
ถือเป็นประเด็นเชิงบวก ไม่ว่าจะเป็นการที่ค่ายรถ EV หันมาให้ความสนใจประเทศไทย และยอดจองรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้น บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคในประเทศไทยครับ
-----------------------------------------------
Reference