BCP ทำธุรกิจโรงกลั่น ปั้มน้ำมันในชื่อ "บางจาก" และร้านกาแฟอินทนิลที่อาจจะไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นมากนัก
และด้วยความที่ไม่น่าตื่นเต้นนี้เองทำให้นักลงทุนมองว่า BCP อาจจะไม่ได้อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่เติบโตแบบเป็นเรื่องเป็นราว แต่อยู่ในกลุ่มของธุรกิจแข็งแกร่งที่ไปได้เรื่อยๆมากกว่า
ซึ่งความคิดนี้อาจจะผิดโดยสิ้นเชิง

เพราะทางบริษัทออกมาวาดแผนธุรกิจแล้วว่าตั้งเป้าจะเติบโตในแง่ของ EBITDA อีก 10 เท่าที่จะนำโดย 3 ธุรกิจ คือ E&P ธุรกิจโรงกลั่น และธุรกิจไฟฟ้า
โดยที่ผ่านมา BCP มีสัดส่วนกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) แบ่งออกเป็น 5 ธุรกิจหลัก คือ 
1. ธุรกิจ Natural Resource สัดส่วน 53%
2. ธุรกิจ Refinery & Trading สัดส่วน 36%
3. ธุรกิจ Green Power สัดส่วน 11%
4. ธุรกิจ Marketing  สัดส่วน 2%
5. ธุรกิจ Bio-Based Products  สัดส่วน 0.3%

ซึ่งถ้าใครสังเกตจะพบว่ารายได้ของ BCP เติบโตสูงมาก
ในปี 2563 บริษัทมีรายได้ 1.36 แสนล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 6.69 พันล้านบาท
ในปี 2564 บริษัทมีรายได้ 2.00 แสนล้านบาท กำไรสุทธิ 7.62 พันล้านบาท
ในปี 2565 รอบ 9 เดือน บริษัทมีรายได้ 2.28 แสนล้านบาท กำไรสุทธิสูงถึง 12.10 พันล้านบาท
ถือเป็นการเติบโตที่สูงมาก ...
ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะล่าสุดบริษัทออกมาประกาศว่าตั้งเป้าการเติบโต EBITDA  ที่ 10 เท่า ภายในปี 2573 (หรืออีก 8 ปีข้างหน้า)

บริษัทชี้แจงว่าจะใช้งบลงทุน 2 แสนล้านบาท สำหรับ 8 ปีข้างหน้า เฉลี่ยปีละ 2.7 หมื่นล้านบาทลงทุนใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่
1. ธุรกิจผลิตและสำรวจปิโตรเลยม งบลงทุนสัดส่วน 35%
2. ธุรกิจโรงกลั่น งบลงทุนสัดส่วน 10%
3. ธุรกิจไฟฟ้า  งบลงทุนสัดส่วน 37% โดยจะเน้นไปที่การทำ M&A
แน่นอนว่างบลงทุนที่สูงมากขนาดนั้น เลยทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า เอาเงินมาจากไหน ? 
บริษัทชี้แจงว่า BCP มีแผนจะเพิ่มการกู้ยืมจากบริษัทลูก คือ BCPG OKEAS ราวๆ 8 หมื่นล้านบาท และ BBGI ราวๆ 4 หมื่นล้านบาท และส่วนที่เหลืออีกราวๆ 5.2 หมื่นล้านบาทจะเป็นแผนการจัดหาเงินจาก BCP เอง เพราะอัตราส่วนหนี้สินต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทไม่ได้สูงมาก อยู่ที่ 0.6 เท่า

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กสิกรไทย มีมุมมองเชิงบวกในเรื่องนี้ โดยเฉพาะในเรื่องของธุรกิจโรงกลั่น และธุรกิจโรงไฟฟ้า
1. ธุรกิจโรงกลั่น โดย BCP จะเน้นผลิตน้ำมันดีเซลแข็งแกร่ง
2. ราคาหุ้นไม่แพง
3. อาจจะมี Upside จากดีล M&A ในธุรกิจโรงไฟฟ้า

ดูจากภาพรวมแล้ว BCP ถือเป็นหุ้นที่มีแนวโน้มในการเติบโตชัดเจน อีกทั้งราคาหุ้นก็ยังไม่ได้แพงในเชิงมูลค่ามากนัก
แต่โอกาสก็มาพร้อมกับความเสี่ยง โดยเฉพาะเรื่องของการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นอาจจะทำให้ผลประกอบการสะดุดลงบ้าง และการสิ้นสุด adder ของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในปี 2566 อาจจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นออกมาต่ำกว่าที่ตลาดมองบวกกันเอาไว้ครับ

--------------------------------------
Reference

งบการเงินสำคัญ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กสิกรไทย

BCP Factsheet