การเลือกตั้งครั้งใหญ่ของประเทศไทยจะมีขึ้นในวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 ซึ่งถ้าดูๆแล้วก็อีกหลายเดือน
ทำไมเราถึงเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งเร็วจัง ?
คำตอบคือ ดูจากค่าสถิติที่ผ่านมามักจะมีการชิงยุบสภาก่อน ...
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า วิเคราะห์ว่า มีแนวโน้มสูงมากที่จะมีการ "ยุบสภา" แล้วเลือกตั้งใหม่ ความน่าจะเป็นอยู่ที่ 70%
และการอยู่ครบเทอม เพียง 30% สาเหตุเป็นเพราะ
1. เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของการเมืองไทยที่ยุบสภาเพื่อชิงจังหวะเลือกตั้ง
เพราะในช่วง 30 ปีที่่ผ่านมามีรัฐบาลเลือกตั้งเพียงชุดเดียวที่อยู่ครบเทอม
2. การเลือกตั้ง 10 ครั้งหลังสุด มักจะเกิดขึ้นในไตรมาส 1 ประมาณ 50%
รองลงมาเป็นไตรมาส 3 ที่ 30%
3. การยุบสภาจะช่วยลดเวลา ส.ส. สังกัดพรรคใหม่ให้เหลือเพียง 30 วัน จาก 90 วัน
4. ช่วงไตรมาส 1 ปีหน้าจะได้รับโมเม้นตัมขาขึ้นทางเศรษฐกิจจากไตรมาส 4 ปีนี้
ส่วนช่วงไตรมาส 2 น่าจะเต็มไปด้วยปัญหาเศรษฐกิจโลก
ดังนั้น การยุบสภาเพื่อเลือกตั้งก่อนจึงสร้างความได้เปรียบให้กับรัฐบาลมากกว่า
ดังนั้น เราอาจจะได้เห็นการเลือกตั้งมาเร็วกว่าปกติ และถ้ามีการยุบสภาจริงๆ จะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อ SET Index
ซึ่งตามสถิติแล้ว ตลาดหุ้นไทยจะวิ่งได้ดีช่วง 2 สัปดาห์ก่อนเลือกตั้ง และ 1 เดือนหลังเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม แบงก์ ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง อาหารเครื่องดื่ม
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า ยังวิเคราะห์อีกด้วยว่า การเลือกตั้งครั้งก่อน คือวันที่ 24 มีนาคม 2562 ซึ่งเป็นช่วงที่นักลงทุนไทยกลับเข้ามาซื้อสุทธิ 4 เดือนติดต่อกันรวมเงินกว่า 7.4 หมื่นล้านบาท แสดงให้เห็นว่านักลงทุนต่างชาติมีมุมมองเชิงบวกต่อการเลือกตั้งถึงแม้ประเทศไทยจะเจอกับปัญหาของ COVID-19
ช่วงนี้กำลังเข้าสู่เรื่องของการเลือกตั้ง ทำให้หุ้นไทยอยู่ในโหมดของ Election Rally ที่จะสร้างประเด็นเชิงบวกให้กับ SET Index ได้
ยิ่งไปกว่านั้น เราอาจจะได้เลือกตั้งเร็วกว่าที่คิดกันไว้ครับ ...