เมื่อไตรมาส 2 ปี 2565 ที่ผ่านมา นักลงทุนไทยได้เห็นกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยทำจุดสูงสุดไปแล้วที่ 3.24 แสนล้านบาท เติบโต 21% qoq และ 28% yoy
ซึ่งถือเป็น All Time High เป็นประวัติการณ์ของตลาดหุ้นไทย ...
แต่สำหรับไตรมาส 3 ปีนี้ มีแนวโน้มว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนไทย "ลดลง"
กลุ่มที่โดดเด่น คือ กลุ่ม การบริโภคภายในประเทศ Domestic Consumption
กลุ่มที่กระทบหนัก คือ กลุ่มพลังงาน
ฝ่ายวิจัยเอเชียพลัส มองว่า กำไรภาพรวมของบริษัทจดทะเบียนน่าจะอยู่ราวๆ 2.07 แสนล้านบาท จากไตรมาส 2 ปี 2565 ทำได้ 3.24 แสนล้านบาท
และจากไตรมาส 3 ปี 2564 ทำได้ 2.06 แสนล้านบาท
... นั้นหมายความว่า ลดลง 36.4% qoq และทรงตัว 0.5% yoy
กลุ่มที่กำไรลดลงมากที่สุด คือ กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ภาพรวมลดลงกว่า 60% qoq ในขณะที่กลุ่ม Domestic Consumption ฟื้นตัวอย่างโดดเด่น เช่น กลุ่มอาหาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มขนส่ง โรงพยาบาล ค้าปลีก และกลุ่มการเงิน
ถามว่า ภาพรวมออกมา "ลดลง" จะส่งผลกระทบต่อหุ้นไทยอย่างไร ?
คำตอบ คือ อาจจะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นไทยบ้าง แต่ไม่มาก
ฝ่ายวิจัยมองว่า ถ้าภาพรวมตลาดมีการปรับฐาน อาจจะเป็นจังหวะในการสะสมและคาดหวังตลาดจะ Outperform ตลาดในช่วงถัดไป
เพราะตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยบวกที่น่าสนใจ เช่น
... เศรษฐกิจของไทยอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ
... เศรษฐกิจไทยมี GDP เติบโตราวๆ 3.5% yoy จากการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว กำลังซื้อที่ฟื้นตัว
... ดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นบวก
... การเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติกว่า 1.06 แสนล้านบาทจากภาคธุรกิจ
มองสั้นๆอาจจะเห็นจังหวะของการปรับฐาน
แต่ถ้ามองระยะยาว หุ้นไทยถือว่าอยู่ในช่วง "สดใส" ครับ
----------------------------------
Reference