การประกาศผลประกอบการของ STGT เป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์ตลาดอย่างมาก
แต่การเซอร์ไพรส์เป็นไปใน "ด้านลบ" ...
โดยผลประกอบการไตรมาส 3 ทำกำไรไปได้เพียง 21.8 ล้านบาทเท่านั้น
จากเดิมที่เคยทำได้สูงถึง 4.53 พันล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรหายไปกว่า 99%
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ?

สาระสำคัญจากผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2565 ประกอบไปด้วย
1. ปริมาณการขายเหลือ 6.38 พันล้านชิ้น จากไตรมาส 2 ปีเดียวกัน ขายได้ 7.62 พันล้านชิ้น ลดลง 16%
2. เมื่อปริมาณขายลดลง ราคาต่อชิ้นก็ลดลง เลยส่งผลให้รายได้จากการขายลดลงไปตามด้วย
โดยทำได้ 4.88 พันล้านบาท จากไตรมาส 2 ปีเดียวกัน ทำได้ 6.54 พันล้านบาท ลดลง 25%
3. รายได้จากการขายลดลง ต้นทุนก็ต้องลดลงตาม แต่ลดลงน้อยกว่ารายได้ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นหดตัวแรง โดยล่าสุดมีกำไรขั้นต้น 559 ล้านบาท จากเดิม 1.32 พันล้านบาท คิดเป็นการหดตัวสูงถึง 58%
4. มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 168 ล้านบาท ขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ 263 ล้านบาท
5. กำไรขั้นต้นลดลงแรง (จากข้อ 3) ในขณะที่ SG&A ลดลง 11% และยังมีขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ด้วย ทำให้กำไรจากการดำเนินงานเหลือเพียง 50 ล้าน ลดลงกว่า 93%
6. กำไรจากการดำเนินงานที่เหลือ 50 ล้าน หักต้นทุนทางการเงิน ค่าใช้จ่ายภาษีต่างๆ ทำให้บริษัทเหลือกำไรเพียง 21.8 ล้านบาท เท่านั้น คิดเป็นการลดลงมากถึง 96% ถ้าเทียบกับไตรมาส 2 ในปีเดียวกัน
แต่ถ้าเทียบกับไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว คิดเป็นการหดตัวมากถึง 99.5%
ถามว่าสาเหตุที่ทำให้ผลประกอบการออกมาเป็นแบบนี้เกิดจากอะไร
คำตอบประกอบไปด้วย 3 ข้อด้วยกัน คือ
1. รายได้ที่ลดลง รายจ่ายที่เพิ่มขึ้น
ราคาถุงมือยางต่อชิ้นอยู่ที่ 0.77 บาท/ชิ้น ราคาลดลงกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ในขณะที่รายจ่าย ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนขายลดลง 17% และ SG&A ลดลง 11% ก็ยังไม่เพียงพอต่อรายได้ที่ลดลง และราคาขายต่อชิ้นที่ลดลงมาก
2. อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ที่หดตัวลงไปมาก
อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 11.5% ลดลงจากที่เคยทำได้ 20.3% ในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งถือว่าหดตัวค่อนข้างหนัก โดยหลักมาจากราคาขายเฉลี่ยต่อชิ้นที่ลดลง
3. ปริมาณขายที่ลดลง
ปริมาณการขายลดลง 16% จากปริมาณสต๊อคถุงมือยางอยู่ในระดับสูง โรคระบาดโควิดลดความรุนแรงลง และการเข้ามาแข่งขันของจีนและมาเลเซีย ส่งผลให้ความต้องการในตลาดลดลง
ดังนั้น ถ้าถามว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผลประกอบการของ STGT หดตัวหนัก เกิดจากอะไร
คำตอบสั้นๆ คือ ราคาขายต่อชิ้นที่ลดลงมาก และสถานการณ์ของถุงมือยางที่ "ล้นตลาด"
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า มองว่ากำไรของ STGT อาจจะชะลอตัวไปจนถึงไตรมาส 4 ของปีนี้ และยังไม่เห็นจุดฟื้นตัวของผลประกอบการเนื่องจากปริมาณการขายที่ลดลงจากการแย่งส่วนแบ่งการตลาดของจีนและมาเลเซีย อีกทั้งยังมีต้นทุนที่สูงจากอัตรากำไรการผลิตไม่ที่ยังไม่พ้นจุดคุ้มทุน อาจจะมีการปรับประมาณการลงได้อีก
โดยสรุปแล้ว ผลประกอบการออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดเอาไว้มากๆ
และกำลังจะเป็น Downside รอบใหม่ของราคาหุ้นอาจจะปรับตัวลดลงได้อีก ...
----------------------------------------
Reference
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย : ผลการดำเนินงาน บจ.
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย : คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า