ประเด็นทื่น่าสนใจอยู่ตอนนี้ คือ การที่มีกระแสข่าวว่า BJC กำลังเอา BigC ขายเข้าตลาดหุ้น (อีกครั้ง)
จริงๆเรื่องของการนำบริษัทลูกมาจดทะเบียน หรือที่เรียกว่า Spin-Off บริษัทลูกเข้าตลาดหุ้น ไม่ใช่เรื่องใหม่และหลายบริษัทขนาดใหญ่ก็มักนิยมทำกัน เช่น
... PTT แยก OR ออกมา
... STA แยก STGT ออกมา
... SCC แยก SCGP ออกมา 
และกำลังจะแยก SCGC บริษัทเคมิคอลส์รายใหญ่ออกมาทำ IPO เข้าตลาดหุ้น

ถามว่า ทำไมต้อง Spin-Off 
ถ้าตอบแบบสั้นๆ ก็คือเพื่อหาแหล่งเงินทุน ... 
แต่เนื่องจากว่าแหล่งเงินทุนมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเงินกู้จากธนาคาร หรือระดมเงินทุนจากการออกหุ้นกู้ ก็ไม่ได้วงเงินสูงมากเพียงพอจะทำให้บริษัทมีการเติบโตก้าวต่อไป อีกทั้งยังเสียดอกเบี้ยแพงอีกด้วย ดังนั้นพอบริษัทเติบโตถึงจุดหนึ่งแล้ว ก็ต้องการ "เงินก้อนใหม่" เพื่อสร้างการเติบโตรอบใหม่
หลายๆบริษัทจึงตัดสินใจ Spin-Off บริษัทลูกออกมาผ่านการทำ IPO (Initial Public Offering) ซึ่งมีข้อดีอยู่ 4 ข้อด้วยกัน คือ
1. ลดภาระทางการเงินของบริษัทแม่
2. เพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทลูกออกมาอย่างชัดเจน และยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทแม่อีกด้วย
3. บริษัทลูกมีความเป็นอิสระ ดูแลตัวเอง บริหารตัวเองผ่านทีมงานมืออาชีพ
4. สามารถระดมทุนเองได้ ซึ่งการระดมทุนครั้งใหม่ หมายถึงการสร้างการเติบโตรอบใหม่ ให้กับธุรกิจในอนาคตต่อไป

โดยเฉพาะเรื่องของการสะท้อนมูลค่าของบริษัทลูก ...
SCC หรือ ปูนซีเมนต์ไทย นักลงทุนทราบว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของไทยมี Market Cap. สูงถึง 4.6 แสนล้านบาท 
นักลงทุนรู้แค่ว่า SCC มีธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ธุรกิจแพ็กเกจจิง และธุรกิจเคมิคอลส์ ...
แต่พอ SCC มีการ Spin-Off บริษัทลูก SCGP ออกมา 
นักลงทุนเลยทราบว่า SCGP ก็เป็นบริษัทใหญ่ที่มีขนาดสูงถึง 2.3 แสนล้านบาท

สรุปแล้ว ข้อดีของการนำบริษัทลูกเข้า IPO หลักๆแล้วก็คือให้บริษัทลูกดูแลตัวเองได้ ระดมทุนด้วยตัวเองได้ และสะท้อนมูลค่าของบริษัทออกมาเพื่อนำไปสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจต่อไปครับ

อนึ่ง นักลงทุนหลายคนอาจะยังไม่ทราบว่า เมื่อก่อน BigC เคยลิสต์อยู่ในตลาดหุ้นไทยมาก่อน
เป็นหุ้นค้าปลีกที่มีศักยภาพน่าสนใจอย่างมาก แต่สภาพคล่องของหุ้นไม่สูงมากนัก ซื้อขายกันวันละไม่กี่แสนหุ้น
ต่อมาในปี 2560 BJC เข้าซื้อกิจการไป และเอาออกจากตลาดไปด้วยเหตุผล 2 ประการ คือ
1. สัดส่วนการกระจายการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ของตลาด
2. ประหยัดค่าธรรมเนียมที่เกิดจากการกระจายการถือหุ้นของ BigC ที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์การดำรงสถานะ
ทำให้หุ้น BigC หายไปจากตลาดราวๆ 5-6 ปี อยู่ภายใต้การบริหารของ BJC มาโดยตลอด 
ดังนั้น การกลับเข้ามา IPO อีกครั้ง จึงถือว่าน่าติดตามอย่างมากครับ ...