#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

เมื่อไรเราจะเห็นเงินดอลลาร์ "หยุดแข็ง"

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
975 views

ค่าเงินดอลลาร์ ผ่านจุด Peak ไปแล้วหรือยัง ? 
เชื่อว่าคำถามนี้น่าจะเป็นคำถามที่น่าสนใจของใครหลายๆคน ...

 

สำหรับปีนี้การถือครองสกุลเงินดอลลาร์ไว้เฉยๆในฐานะ "สินทรัพย์" จะเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด โดยให้ผลตอบแทนมากถึง 17% ในปีนี้
สาเหตุสำคัญมาจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงไปถือครองสกุลเงินดอลลาร์ และตราสารหนี้แทน
ดังนั้น ถ้าธนาคารกลางสหรัฐมีแนวโน้มจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มไปเรื่อยๆ เงินดอลลาร์ก็จะแข็งค่าไปเรื่อยๆตามการขึ้นดอกเบี้ย

แต่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง และรุนแรงจะไม่เป็นผลดีต่อภาคธุรกิจ การลงทุนจะลดลง การจ้างงานจะลดลง คนตกงานกันมากขึ้น ดังนั้นท้ายที่สุดแล้วธนาคารกลางจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปเรื่อยๆไม่ได้ อาจจะต้องมีการหยุดการขึ้นดอกเบี้ย หรือการคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ยาวนานพอ กดให้เงินเฟ้อลดลง
นั่นหมายความว่ามีแนวโน้มสูงมากที่เราอาจจะเห็นเงินดอลลาร์ หยุดแข็ง และมีแนวโน้มอ่อนค่าลง

 

ถามว่าสาเหตุที่ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง มาจากอะไร ณ ตอนนี้
มาจากสาเหตุ 3 ประการ คือ
1. ธนาคารกลางสหรัฐ จะหยุดการขึ้นดอกเบี้ย
2. ราคาน้ำมันจะหยุดขึ้นแรงๆ ต้นทุนพลังงานมีแนวโน้มลดลง 
3. จีนเปิดประเทศ
ซึ่งทำให้กลับมาที่คำถามว่า เมื่อไรเราจะเห็นเงินดอลลาร์ "หยุดแข็ง"
คำตอบ คือ น่าจะอยู่ราวๆไตรมาส 2 ปี 2566

 

แต่ไม่ได้หมายความว่าเงินดอลลาร์จะไม่สามารถกลับมาแข็งค่าได้ ... 
เพราะถ้าสถานการณ์เปลี่ยนไป เช่น เอาเงินเฟ้อไม่ลง ราคาน้ำมันพุ่ง เงินเฟ้อพุ่ง
ธนาคารกลางสหรัฐก็ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เงินดอลลาร์ก็อาจจะกลับมาแข็งค่าได้อีก
เพียงแต่ ณ เวลานี้ จากข้อมูลที่มี ตัวเลขเศรษฐกิจยังดูดี ราคาน้ำมันค่อนข้างนิ่งทำให้ต้นทุนพลังงานลดลงแบบค่อยเป็นค่อยไป เงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง ก็ไม่มีเหตุผลที่ธนาคารกลางจะหยุดขึ้นดอกเบี้ย
เมื่อหยุดขึ้นดอกเบี้ย เงินดอลลาร์ก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ครับ

----------------------------------------------
Reference

barrons.com

forbes.com

seekingalpha.com

schwab : The Strong Dollar: Can It Continue? 


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง