สัปดาห์ที่แล้ว ได้ไปร่วมงานสัมมนาใหญ่ของ InnovestX 
ได้คิวขึ้นเวทีร่วมกับน้องแพร ในหัวข้อ "ปั้นพอร์ตลงทุน ด้วยหุ้นคุณภาพ"
เป็นสัมมนาแบบเจอะเจอกันตัวเป็นๆครั้งแรกในรอบ 2 ปีกว่า 
ที่หอประชุมอ.สังเวียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 
ขอบคุณลูกค้า InnoVestX ที่มากันอุ่นหนาฝาคั่งเต็มหอประชุม 
รู้สึกดีมากๆที่ได้เจอนักลงทุนตัวเป็นๆเช่นกันครับ บรรยากาศเดิมกลับมาแล้ว 
ผมได้รับคำถามส่วนตัวเยอะมากหลังงาน และระหว่างเดินลงจากอาคารไปที่รถก็เจอคำถามเยอะมาก 
และที่ถามเหมือนๆกันมากก็มีเยอะ ก็ขอตอบเพิ่มตรงนี้ละกันนะครับ

1. ทำไมพี่ถึง Bullish หุ้นไทยจัง เพราะพี่มาพูดที่อาคาร SET เลยเกรงใจสถานที่ ป่าวพี่ 
ANS : 
แหม๊ๆๆๆ ทำเหมือนคนเพิ่งรู้จักกัน 
ผมเป็นคนที่ Bullish หุ้นไทยมาหนักๆคือหลังโควิดนี่แหละนะ 
เหตุผลคือ นอกจากจะมีหุ้นให้ลงทุนเยอะมาก SET+MAI 700 กว่าตัว เรายังรู้จักหุ้นหลายๆตัวดี เห็นสภาพกิจการ ภาพชัดอ่านกิจการง่าย ยิ่งหลังยุคโควิดก็ยิ่งมั่นใจ โอกาสมีเยอะมาก และวิเคราะห์มั่นใจ กล้าทุ่มเงินสดใส่แบบไม่กลัว
ถ้าตามดูคลิปในหลากหลายช่อง ที่ผมออกมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ก็ย้ำคำเดิมว่า มองเห็นโอกาสอยู่ในหุ้นไทยหลังโควิด เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์

เราจะฟื้นแน่ๆ  เราจะกลับไปสู่จุด Pre-Covid อย่างแน่นอน 
>>> ตอนโดนโควิด SET จมไปลึกสุด -35% (จาก 1600 เหลือต่ำพัน) แล้วเด้งขึ้นมา หุ้นแต่ละตัว ลงไม่เท่ากัน บางตัวลงเยอะ บางตัวลงน้อย 
>>> ตอนฟื้นขึ้นมาถึง 1620 ทุกวันนี้ หุ้นแต่ละตัว ก็ฟื้นช้าเร็วไม่เท่ากัน 
ตัวไหนฟื้นเร็ว จนเกิน Pre-Covid ก็ขายเปลี่ยนตัว ไปสู่ตัวที่พื้นฐานดีเหมือนกันแต่ราคายังนอนก้น มันคือการย้ายเงินลงทุนไปตัวที่ undervalued มากกว่านั่นเอง
ให้ทำวนอยู่แบบนี้ เป็นปีที่ 2 แล้ว
ถึงตอนนี้ก็ยังฟื้นไม่ครบเลย โอกาสยังมีอยู่ครับ

2. "พี่ไม่กลัวว่า SET จะลงไปอีกรอบเหรอ หุ้นไทยไม่เคยยืนเหนือ 1600 ได้นาน ขึ้นมาเด๋วก็ลงไปอีก"
ANS : 
ไม่กลัวครับ สมมติฐานของผมคือ..หุ้นไทยจะลงหนักได้ด้วยกรณี “ปิดเมือง” 
ต้นปี 65 ไตรมาส 1 เราติดโควิดกันเยอะมาก แต่ปิดแค่แบบเบาๆ แถม SET ไม่ลงแล้ว ถึงจุดนั้นผมก็มั่นใจแล้วนะ 
ปัจจัยบวกหุ้นไทยมีอย่างน้อย 3 ข้อ 
1.  ดัชนีหุ้นไทย ผ่านพ้นจุดต่ำสุดของรอบไปแล้ว ตั้งแต่ ปี 63 
เช่นกันกับ GDP ที่ติดลบในปีเดียวกัน และจะทยอยบวกขึ้นมาเรื่อยๆ แม้ไทยจะบวกช้าแต่มาแน่ ผมเชื่อว่า ปี66 จะต้องมีก้าวใหญ่ๆ 
2.  นโยบายการเปิดประเทศเต็มรูปแบบมากขึ้น 
การปิดประเทศเป็นสิ่งที่ผิดปกติ ห้างร้าง รถไฟฟ้าเปล่า ถนนว่าง ร้านอาหารไร้คน ฯลฯ ทั้งหมดคือเรื่องชั่วคราว การเปิดประเทศไทยจะต้องเกิดขึ้น มากขึ้นๆๆๆๆ กระทั่งทุกอย่างกลับมา Pre-Covid และไม่ใช่ไทยเท่านั้น ประเทศจีนสุดท้ายก็ต้องเปิดประเทศเช่นกัน และไทยคือหนึ่งในผู้รับอานิสงส์
ถ้าเชื่อแบบข้อนี้ มีหุ้นเปิดเมือง เปิดเที่ยว เปิดทาง เปิดลงทุน เปิดช้อป ฯลฯให้เลือกมากกว่า 20 ตัว 
3.  เศรษฐกิจไทยทยอยฟื้นตัว และขึ้นดอกเบี้ยจำกัด
ตั้งแต่ Q4/64 มาถึงปี 2565 GDP ไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง ปกติเราจะปรับประมาณการ GDP ลง แต่ปีนี้เราปรับขึ้นนะครับ และตัวเลขที่สำคัญคือตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ทะลุเป้า สิ่งนี้จะช่วงทั้งภาคท่องเที่ยว ค้าปลีก ขนส่ง ฯลฯ 
ซึ่งสวนทางกับ GDP ประเทศสำคัญหลักๆ ทั้งสหรัฐฯ และยุโรป ที่ชะลอตัวจากเงินเฟ้อ และจีนจากโควิด แถมไทยยังมีความเสี่ยงเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยน้อยกว่า ประเทศที่เงินเฟ้อแรงๆอีกด้วย

สรุปคือ ไม่กลัว SET ลงครับ
ฝากเพิ่มนิดนึงคือ เราซื้อหุ้น แต่เราไม่ได้ซื้อ SET นะ 
การทำ Stock Selection สำคัญ อย่างช่วง 2 ปีนี้ SET ขึ้นมา 14% แต่ถ้าเลือกหุ้นที่ไม่ได้รับปัจจัยเกื้อหนุนก็ลงได้หนักเช่นเดียวกัน เช่น ถุงมือธานอส ไฟแนนซ์จำนำทะเบียน คอมโมบางชนิด ฯลฯ

3. ทำไมพี่ไม่มองประเทศ X, Y, Z etc.
ANS: 
คือตอนนี้ ผมถือหุ้นเกือบเต็มพอร์ตนะ เป็นหุ้นไทยมากกว่า 85% 
มีส่วนของการลงทุนต่างประเทศที่เป็นกองทุน mutual Fund และพวก RMF SSF อยู่ด้วย 
ซึ่งแน่นอนว่า ในส่วนตปท.น้านนน "ลงเละเทะ"เหมือนกัน
แต่ถ้าจะปรับพอร์ต กระจายไปหุ้นตปท.เพิ่มเติม 
ผมเลือก หุ้นจีน" ครับ 
ก็มีลงทุนผ่าน DR หุ้นจีน (HK) ที่อยู่บน Streaming นี่แหละ 
คือลงมาจนเห็นโอกาส ก็ขอเก็บของไว้บ้าง
เอาจริงๆ หุ้น USA และ เวียดนาม ก็น่าสนใจเช่นกัน 
แต่ปัญหาอยู่ที่เงินสด ยิงไปจะหมดรังเพลิงแล้วจร้า
ตรงนี้ถึงสิ้นปี ก็จะโฟกัสตามนี้ก่อนครับ