#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

สรุป 6 สาระสำคัญการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่นักลงทุนต้องรู้

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
1,037 views

 

การประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2464 โดยเป็นกิจกรรมของพรรคที่ต้องจัดขึ้นทุกๆ 5 ปี ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการกำหนดทิศทางของประเทศ การคัดเลือกผู้นำรุ่นต่อไป หรือมีการเปลี่ยนแปลงของสมาชิกภายในพรรค
แต่เดิมมักไม่เป็นที่สนใจสักเท่าไร แต่หลังจากที่ขนาดของเศรษฐกิจจีนใหญ่ขึ้น มีบทบาทในเวทีโลกมากขึ้นทำให้เป็นที่สนใจกันทั่วโลก

ประเด็นคือ การประชุมพรรคเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา นักลงทุนรู้ว่ามีการประชุม แต่กลับไม่รุ้ว่ามีรายละเอียดอะไรที่เราต้องสนใจบ้าง
อยากจะสรุปให้ฟัง 6 ประเด็น แบบนี้ครับ ....

 

1. การเติบโตของเศรษฐกิจแบบมีคุณภาพ
ถึงแม้ว่าเราจะได้ยินข่าวที่ไม่ค่อยดีนักต่อประเทศจีน การควบคุมอย่างหนัก การเก็บภาษีกลุ่มคนรวย การปิดเมือง รวมถึงวิกฤตโรคระบาดโควิด ทำให้เศรษฐกิจภายใต้การนำของสีจิ้นผิงเติบโต "ลดลง" เมื่อเทียบกับผู้นำ 2 คนก่อน คือ เจียง เจ๋อหมิง และหู จิ่นเทา
แต่เราต้องไม่ลืมว่าภายใต้การนำของผู้นำ 2 คนก่อน เติบโตมาจาก "ฐานต่ำ" อีกทั้งการเข้ามาของสี จิ้นผิงอยู่ภายใต้สภาพความท้าทายหลายอย่าง ทำให้การเติบโตไม่เป็นไปตามเป้า

ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ต่างชาติมองว่าประเทศจีน ปีนี้เติบโตได้ 3.9% และปีหน้าอาจจะอยู่ราวๆ 5% ถึงแม้จะไม่โตมาก แต่ก็เป็นอัตราการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างมีคุณภาพ

 

2. ยืนหนึ่งคือ Common Prosperity หรือเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน
ปัจจุบัน กลุ่มคนจีนที่รวยที่สุดมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 51,300 หมื่นเหรียญสหรัฐ และกลุ่มคนยากจนที่มีรายได้ต่ำสุดอยู่ที่ 3,500 เหรียญสหรัฐ ซึ่งตัวเลขนี้ต่างกันถึง 15 เท่า
ดังนั้น สี จิ้นผิง อาจจะมีการจัดเก็บภาษี โดยปรับปรุงเก็บคนรวยให้มากขึ้น เอื้อต่อคนยากจนให้มากขึ้น และจัดระเบียบบริษัทเทคโนโลยี
สื่อต่างชาติมองว่าก้าวต่อไปของนโยบาย Common Prosperity คือ การสนับสนุน Start-Up หรือบริษัทขนาดกลาง - เล็ก ให้เติบโตใกล้เคียงกับบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งถือว่าดีต่อภาพรวม

 

3. ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี
ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ และตั้งเป้าเป็นมหาอำนาจทางเทคโนโลยีภายในปี 2593 โดยวางรากฐานเรื่องของการศึกษา และการพัฒนาแรงงาน

 

4. เน้นในเรื่องการปล่อยมลพิษ = 0 ภายในปี 2603
สี จิ้นผิง เน้นในเรื่องการสร้างพลังงานสะอาด มาทดแทนการใช้เชื้อเพลิง

 

5. ความมั่งคงของชาติ
นโยบาย "หนึ่งประเทศ สองระบบ" โดยการกล่าวนี้หมายถึงการรวมชาติกับไต้หวัน โดยจะใช้นโยบายนี้กับไต้หวันเหมือนกับที่ใช้กับฮ่องกง
ทั้งนี้ ไต้หวันมีอเมริกาหนุนหลังอยู่ การรวมชาติอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีน สหรัฐ และไต้หวัน อาจจะยังคลุมเครืออยู่ต่อไป และมุ่งเป้าไปที่เรื่องของสงครามการค้าได้ในอนาคต

 

6. นโยบาย Zero-Covid คือแนวทางที่ถูกต้อง
ใครหลายๆคนอาจจะคิดว่า Zero-Covid คือนโยบายที่ล้มเหลว โดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจ แต่สำหรับสี จิ้นผิงแล้ว คือไม่ใช่ เพราะเขามองว่านโยบายนี้คือก้าวที่ถูกต้อง สามารถปกป้องชีวิตประชาชนไว้ได้จำนวนมาก
และที่สำคัญ คือ จะไม่มีการยกเลิกเร็วๆนี้
สิ่งที่น่าสนใจ คือ นโยบายนี้จะยกเลิก หรือลดความแรงลง เมื่อไร ? 
สื่อต่างชาติมองว่า น่าจะเดือน มีนาคม ปี 2566 ...

 

โดยภาพใหญ่แล้วสิ่งที่สี จิ้นผิง เน้นคือ การพัฒนาชาติ คือเป้าหมายสำคัญสูงสุด
ดังนั้น การที่เราคิดว่าการขึ้นมามีอำนาจเป็นสมัยที่ 3 (และอาจจะต่อๆไป) รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสมาชิกพรรค ทำให้สี จิ้นผิงมีอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ ส่งผลให้เกิดการใช้อำนาจแบบรุนแรงโดยไม่สนใจเศรษฐกิจก็อาจจะไม่จริงซะทีเดียว เพราะเราต้องไม่ลืมว่า การพัฒนาชาติ สิ่งหนึ่งที่จะอยู่เฉยไม่ได้คือเรื่องของเศรษฐกิจ
เราอาจจะเห็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือการเปิดประเทศพร้อม "แพ็คเกจ" การกระตุ้นเศรษฐกิจบางอย่างที่เป็นข่าวดีรอเราอยู่ข้างหน้าก็เป็นไปได้ครับ ....


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง