ราคาหุ้นของบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาร่วงไปแล้วกว่า 39% และดูทีท่ายังไม่เห็นการฟื้นตัวของราคาหุ้น

ถามว่า มีปัจจัยลบอะไรที่ยังสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน

คำตอบ คือ นักลงทุนกังวลกับสถานการณ์ของ KEX อยู่ 2 ประเด็นด้วยกันที่เรียกได้ว่าเป็นอุปสรรคที่ยังไม่เห็นทางออกของ KEX ก็อาจจะไม่ผิดนัก ประกอบไปด้วย

1. ผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ยังเห็นการขาดทุน

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กสิกรไทย วิเคราะห์ว่า เราอาจจะได้เห็นผลประกอบการของ KEX ขาดทุน 548 ล้านบาท

... จากที่เคยกำไร 12 ล้านบาทในไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว 
... และขาดทุน 732 ล้านบาทในไตรมาส 2 ของปี 2565

สาเหตุที่ยังขาดทุนเป็นเพราะว่า KEX เจอกับสงครามราคาที่รุนแรง ค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ค่าน้ำมันที่แพงขึ้น และการชะลอตัวในตลาดจัดส่งพัสดุ

2. กระแสเงินสดที่ลดลงไปเรื่อยๆ

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กสิกรไทย วิเคราะห์ว่า หลังจาก KEX เข้าตลาดมา มีเงินสดในมือสูงถึง 9.7 พันล้านบาท

แต่พอมาไตรมาส 2 ปี 2565 กลับมีกระแสเงินสดในมือเหลือเพียง 2.4 พันล้านบาท ซึ่งจากการคาดการคิดว่าจะมีกระแสเงินสดเพียงพอสำหรับ 3-4 ไตรมาส

ถามว่าสาเหตุที่ทำให้กระแสเงินสดของบริษัทลดลง เกิดจากอะไร

คำตอบ คือ บริษัทมีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน และมีแนวโน้มว่าจะลดลงต่อไปเรื่อยๆจนถึงไตรมาส 4 ของปีหน้า

โดยสรุปแล้ว สถานการณ์ของ KEX อาจจะยังไม่สู้ดีนักในแง่ของผลประกอบการ โดยเฉพาะเรื่องของสงครามราคา และภาพรวมของตลาดอีคอมเมิร์ซที่อ่อนแอลง อาจจะส่งผลให้ผลประกอบการของ KEX ต้องเจอความยากลำบากต่อไป

ถ้าผลการดำเนินงานขาดทุน จะส่งผลให้กระแสเงินสดอาจจะติดลบได้ ในเร็ววันนี้ครับ

-----------------------------------------------

Reference

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กสิกรไทย