รู้หรือไม่ว่าหุ้น OSP ปรับตัวลงไปแล้วกว่า -27% YTD ซึ่งถือว่าปรับตัวลดลงแรงกว่าหุ้นในกลุ่มเดียวกัน ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้นกับหุ้น OSP ... ?
มีปัจจัยอะไรที่ทำให้นักลงทุนกังวล

บทวิเคราะห์หลักทรัพอินโนเวสท์ เอกซ์ วิเคราะห์ว่าผลประกอบการของ OSP อาจจะทำจุดต่ำสุดในไตรมาส 3 ซึ่งมาจากเหตุผล 4 ประการ คือ
1. รายได้ไม่เติบโต
2. ต้นทุนขาย และ SG&A สูงกว่าที่คาด
3. ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เมียนมา
4. ส่วนแบ่งการตลาดที่ลดลง
ซึ่งประเด็นสำคัญอยู่ที่ ต้นทุนขายที่ปรับตัวสูงขึ้น และการสูญเสียส่วนแบ่งการตลาด เป็นปัจจัยที่น่ากังวลที่สุด
เรื่องของต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปริมาณขายที่ลดลง ต้นทุนขวดก้ว และก๊าซธรรมชาติซึ่งคิดเป็นต้นทุนราวๆ 6% ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก
อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการบริหาร และขาดทุนจากเมียนมา จะกดดันให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 30% จากแต่ก่อนที่เคยทำได้ราวๆ 33% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
เรื่องของส่วนแบ่งการตลาดมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากว่าเมื่อไม่นานมานี้บริษัทมีการประกาศขึ้นราคาเครื่องดื่มชูกำลังของบริษัทเป็น 12 บาท (จากเดิม 10 บาท) น่าจะทำให้แข่งขันลำบากขึ้น และบริษัทก็อาจจะสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดไป
ในไตรมาส 1 ปี 2565 บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง 54%
ในไตรมาส 2 ปี 2565 บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง 49%
และคาดว่าไตรมาส 3 ปี 2565 บริษัทจะมีส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง 48%
ซึ่งภาพรวมคือ ลดลงเรื่อยๆ ...
สรุปแล้ว ฝ่ายวิจัยมองว่า ในปี 2565 ไปจนถึงปี 2566 ผลประกอบการของ OSP อาจจะออกมาต่ำกว่าที่เคยคาดเอาไว้
โดยนักลงทุนจะเห็นไตรมาส 3 ปีนี้ ผลประกาศจะเป็นจุดต่ำสุด และจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้น
แต่สิ่งที่ยังมีควาน่ากังวล คือ ต้นทุนวันถุดิบที่สุงขึ้น และส่วนแบ่งการตลาดที่ลดลง
ทำให้ภาพรวมของ OSP อาจจะออกมาไม่สดใสเท่าไรนักนั่นเองครับ ....
-------------------------------------
Reference