จีนกำลังจะเป็นผู้ส่งออกเทคโนโลยีรถไฟของตัวเอง ทั้งการผลิตและขายตัวรถไฟ รวมถึงเทคโนโลยีการควบคุมการวิ่งและการสื่อสารระบบรถรางด้วย
ถ้าใครยังไม่รู้จักนี้ละก็...ต้องเกริ่นก่อนนะครับว่า เป็นบริษัทผู้ผลิตเทคโนโลยีรถรางบนบกและใต้ดิน, รถไฟความเร็วสูง รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับระบบรางทั้งหมดครบเครื่อง เป็นบริษัทผู้ผลิตรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพนักงานประมาณ 180,000 คน...บริษัทนี้ชื่อว่า China Railway Rolling Stock Corporation (CRRC) ซึ่งจะน่าจับตามองและโดดเด่นมากในอนาคต
ไม่เพียงเท่านั้นนะครับ จีนยังส่งออกบริการรับเหมาออกแบบ, ก่อสร้าง และรับบริหารโปรเจครางรถไฟขนาดใหญ่ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอื่นๆอีกด้วย และถ้าพูดถึงบริษัทแบบนี้ที่ผู้นำจีนมักจะนำติดไม้ติดมือไปด้วย เมื่อไปเจรจากับผู้นำหลายประเทศรอบโลก และได้ดีลขนาดใหญ่กลับมาตลอด...คงต้องยกให้บริษัท "China Railway Group" ครับ
ถ้าดูแค่ชื่อก็คงดูไม่ออกว่า China Railway ไม่เพียงสร้างรางรถไฟเท่านั้นนะครับ แต่ยังรับเหมาสร้างโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆอีกมาก ทั้งถนน สะพาน ทางยกระดับ และอีกมากมาย และมีโปรเจคในปัจจุบันอยู่แล้วแทบจะทุกภูมิภาคของโลก...แต่นี่เป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้นครับ
ปัจจัยดันบริษัทรถไฟเมืองจีนให้ "Go Global" สำเร็จนั้น คงจะเป็นการสนับสนุนเม็ดเงินลงทุนขนาดมหาศาลต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี, นโยบายเชิงกลยุทธ์ของผู้นำสี จิ้นผิง และล่าสุดคือการจัดตั้งองค์กรระดับนานาชาติที่จีนต้องภูมิใจมาก นั่นคือ Asian Infrastructure Investment Bank (AIIB) ครับ
1. เม็ดเงินลงทุน จีนจะใช้เงินในปี 2016 ไปอีกมากกว่า 8 แสนล้านหยวนทีเดียวครับ กับการทุ่มไปกับการสร้างทางรถไฟในแถบตอนกลางไปถึงทางตะวันตกของจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งความเจริญด้านโครงสร้างพื้นฐานยังไปได้ไม่ครอบคลุมนัก ตัวเลขการคมนาคมโดยรางของเมืองจีนเติบโตได้ดีนะครับ (จาก People's Daily, China):
1.1 ทั้งปี 2015 มีผู้โดยสารรถไฟกว่า 2.5 พันล้านคน โตจากปี 2014 ประมาณ
10%
1.2 การขนส่งแบบไร้ cargo มีการเติบโต 19% ในปี 2015 และการขนส่งแบบมี cargo โตได้ถึง 20% ในช่วงเวลาเดียวกัน
2. นโยบายเชิงกลยุทธ์ - The Belt and Road Initiatives เป็นนโยบายที่ตั้งขึ้นภายใต้ยุคประธานาธิบดีคนปัจจุบัน โดยจะให้จีนเป็นผู้นำโลกในการผลักดันให้เกิดการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางบกและทางทะเล เชื่อมโยงเส้นทางการค้าสายไหม เป็นการเริ่มปลุกความยิ่งใหญ่ของจีนขึ้นมาอีกครั้ง ให้เหมือนประวัติศาสตร์เก่า สมัยจีนเป็นมหาอำนาจทางการค้าที่เคยรุ่งเรืองมาก่อน
นโยบายนี้จะเชื่อมจีนด้านตะวันตกไปยังเอเชียกลาง แอฟริกา และเชื่อมไปยังยุโรปได้ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ได้เห็นแล้วว่าผู้นำจีนบินไปพบผู้นำของหลายประเทศในแถบภูมิภาคดังกล่าวทั้งหมด เพื่อโปรโมต Belt and Road Initiatives ทั้งผู้นำแอฟริกาใต้ ผู้นำอังกฤษ หรือผู้นำซาอุดิอาระเบียทั้งหมดนี้ บริษัทโครงสร้างพื้นฐานของเมืองจีนที่น่าจะได้ประโยชน์จาก Belt and Road Intiatives ไปก็คงหนีไม่พ้น China Railway Group อีกนั่นแหละครับ
3. AIIB เป็นองค์กรทางการเงินที่ให้เงินทุนสนับสนุนประเทศสมาชิกในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วนะครับ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา การเกิดขึ้นของ AIIB จะตอบสนองหลายประเทศที่อยากให้จีนเข้าไปร่วมลงทุนมาก
ประเทศแรกที่ข่าวออกบ่อยก็คือ ฟิลิปปินส์ ที่ผู้นำเชื่อว่าโครงสร้างพื้นฐานยังต้องการพัฒนาอีกมาก และยังต้องการเงินทุน และ know-how เทคโนโลยีการก่อสร้างและการคมนาคมใหม่ๆเข้ามาอีก
อีกประเทศหนึ่งที่น่าจับตามองก็คือ มาเลเซีย เพราะสำคัญขนาดที่ CRRC ยอมไปตั้งฐานการผลิตและบริการซ่อมบำรุงที่กรุงกัวลาลัมเปอร์เลยทีเดียว นับเป็นจุดยุทธศาตร์ที่ CRRC จะใช้บุกตลาด South East Asia ต่อไป
คู่แข่งของ CRRC และ China Railway ในตลาดโลกก็มีเยอะมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเจ้ารถไฟชินคันเซ็น JR Central ของญี่ปุ่น ที่นายกของญี่ปุ่นกำลังเร่งเจรจากับผู้นำคนสำคัญอย่าง Narenda Modi ของอินเดียเอง หรือจะเป็นบริษัทที่ใหญ่มากๆอย่าง Bombardier ของฝรั่งเศส
สุดท้ายแล้วในอุตสาหกรรมนี้ นอกจาก connection, technical know-how และความสามารถในการทำโปรเจคให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว "ราคา" เป็นปัจจัยที่สำคัญมาก...ซึ่งเมื่อเทียบราคาจีนกับราคาของญี่ปุ่น หรือยุโรปแล้ว ดูเหมือนจะเข้าทางจีนมากกว่านะครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก China Xinhua และภาพจาก CNTV