ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะไม่ค่อยมีประเด็นเศรษฐกิจอะไรใหม่ๆ
แต่ทำไมตลาดหุ้นยังคงเคลื่อนไหวในแดนลบอย่างต่อเนื่อง ...
สาเหตุเป็นเพราะว่า นักลงทุนกำลังกังวลกับเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะมุมมองที่ไม่ค่อยจะดีของ IMF
แต่เดิม ทาง IMF มองว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มจะฟื้นตัวได้ราวๆกลางปีหน้าจากราคาพลังงานที่ลดความร้อนแรงลง และเงินเฟ้อที่อยู่ในวิสัยที่พอจะควบคุมได้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเติบโตราวๆ 2.9%
แต่ด้วยสถานการณ์หลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสงครามรัสเซียยูเครน นโยบายที่ตึงตัวของธนาคารกลางทั่วโลก และการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีน ทำให้มุมมมองของ IMF เปลี่ยนไป และมองว่าอาจจะแย่กว่าที่คาดเอาไว้
โดย IMF ปรับมุมมองการเติบโตอาจจะลดลงเหลือเพียง 2.7%
IMF มองว่าอัตราเงินเฟ้อสูงสุดน่าจะอยู่ที่ 8.8% และจะยังคงอยู่ต่อไปนานกว่าที่คาดการณ์ไว้
และจะลดลงเหลือเพียง 6.5% ในปี 2566
และลดลงเหลือระดับ 4.1% ภายในปี 2567 ...
อีกทั้งยังมองว่าประเทศ 1 ใน 3 ของโลกมีความเสี่ยงว่าจะเกิด Recession ในปีหน้า
โดยเฉพาะ 3 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา ยุโรป และจีนจะยังคงชะงักงันต่อไป
โดยสรุปแล้ว IMF มองว่าเศรษฐกิจโลกอาจจะแย่กว่าที่คาดกันเอาไว้ โดยมีการปรับลดการเติบโตลงเหลือเพียง 2.7% จากที่เคยคาดไว้ว่าน่าจะโตระดับ 2.9% จาก 3 ปัจจัยหลัก คือ
1. ความขัดแย้งรัสเซีย และยูเครน ที่ยังไม่มีท่าทีจะจบลง
2. วิกฤตเงินเฟ้อ และค่าครองชีพที่พุ่งสูง
3. การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
ดังนั้น ความกังวลของ IMF จะเป็นตัวสะท้อนได้อย่างดีว่า นโยบายการเงินน่าจะยังตึงตัวต่อไป ความกังวลยังคงอยู่
และที่สำคัญ คือ ยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดหุ้นในเร็ววัน ครับ ...
------------------------------------
Reference