ตลาดหุ้นเวียดนาม ได้กลายเป็นตลาดหุ้น "ยอดแย่" ของปีนี้ในภูมิภาคเอเชียไปแล้ว
โดยร่วงลงไปแล้วกว่า 31% ในรอบ 1 ปี

ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า เกิดอะไรขึ้นกับตลาดหุ้นเวียดนาม มีปัจจัยลบอะไรที่น่ากังวล
ตลาดหุ้นเวียดนามน่าจะมีความกังวลอยู่ 3 ประการ คือ
1. เศรษฐกิจโลกชะลอตัว การปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐทำให้ค่าเงินดอง (VND) ของเวียดนามอ่อนค่าลงต่อเนื่อง
2. ความกังวลเรื่องธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse Bank) อาจจะมีปัญหา ทำให้นักลงทุนต่างชาติเทขาย
ด้วยสาเหตุนี้เอง แรงซื้อจากนักลงทุนรายย่อย มีน้อย ประกอบกับแรงขายที่มีเข้ามามาก
3. ความกังวลเรื่องสภาพคล่องของตลาด
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หุ้นขนาดใหญ่ เช่น VCB -4.3% และหุ้น Masan Group -6%
จากความกังวลเรื่องสภาพคล่องของตลาด ทำให้นักลงทุนรายย่อยเทขายแบบ Panic Sell เพราะเกรงว่าจะโดน Margin Call ซึ่งถ้านักลงทุนไม่รีบเติมเงินเขาไปอาจจะถูกสถานะ "บังคับขาย" (Force Sell) ได้ จึงมีแรงเทขายในอาทิตย์ที่ผ่านมา
... ด้วยสาเหตุนี้เอง ทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลงต่อเนื่อง
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าบริษัทจำนวนมากในเวียดนามมีศักยภาพสูง การเติบโตสูง และราคาหุ้นถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับมูลค่า ดังนั้นการลดลงของดัชนีตลาดหุ้นเวียดนาม มองว่าเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน
สอดคล้องกับความเห็นของ Asia Frontier Capital ที่มองว่า เวียดนามคือประเทศหลักๆที่นักลงทุนควรเข้าไปลงทุนในเวลานี้ ...
ถ้าดูจากภาพรวม เวียดนามมีปัจจัยพื้นฐานดี บริษัทยังเติบโตและโดดเด่นที่สุดในภูมิภาค
ถ้าเราสามารถมองข้ามเรื่องสภาพคล่องและความกังวลปัจจัยระดับโลกได้ อาจจะเป็นโอกาสที่น่าจับตาเป็นอย่างมากครับ