เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หุ้นไทยเกิด Panic Sell หุ้นร่วงไปกว่า -31 จุด
ถ้าเราถามหาเหตุผลที่จะถือหุ้นต่อ หรือพอจะมีข่าวดีท่ามกลางข่าวร้าย บ้างไหม ?
ก็ต้องยอมรับว่า ไม่มี ...
เมื่อไม่มีเหตุผลให้ถือหุ้นต่อ สิ่งที่สมองเราสั่ง คือ อยากจะขาย และต้องขายหุ้นเพื่อถือเงินสด
ปรากฏว่าใช้เวลาเพียง 2 วัน หุ้นก็กลับมายืนอยู่ที่เดิม ..
เมื่อ "ราคาหุ้นแกว่ง จิตใจเราก็แกว่งตาม"
จริงๆอาการ "กลัวตามตลาด" ไม่ได้เกิดจากนิสัย จิตใจที่ไม่แน่วแน่ หรือมีประสบการณ์น้อยในการลงทุน แต่เป็นเพราะว่ามนุษย์ทุกคนถูกควบคุมโดย "ฮอร์โมน"
ในสมองส่วนอะมิกดะลา (Amygdala) ซึ่งควบคุมเรื่องของการตื่นตัวทางร่างกาย ได้หลั่งสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "นอร์อิพิเนฟริน" (Norepinephrine) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ ต้องทำอะไรเพื่อลดความตึงเครียดลง
โดยเฉพาะเรื่องของการวางแผน ยิ่งเราหลั่งนอร์อิพิเนฟรินมากเท่าไร เราก็ยิ่งตื่นตระหนก และมองข้ามเรื่องของการวางแผนมากเท่านั้น
ถามว่า เราพอจะมีวิธีควบคุม หรือห้ามไม่ให้เราตัดสินใจผิดพลาดในช่วงเวลาคับขันแบบนี้ได้บ้างหรือไม่
นักจิตบำบัดได้เสนอทฤษฏีที่เรียกว่า "โลโกเทอราพี" ว่าด้วยเรื่องของการคิดไปเองว่า สิ่งที่ทำให้เราไม่สบายใจ รู้สึกเครียด ได้เกิดขึ้นจริงๆไปแล้ว ตัวอย่างเช่น นักลงทุนกลัวสูญเสียเงินจากการลงทุน
แต่วิธี โลโกเทอราพี เสนอให้เราคิดว่าเงินที่เราโอนเข้าไปในบัญชีหุ้น มันไม่ใช่เงินของเรา เราได้สูญเสียเงินก้อนนี้ไปแล้ว และเงินก้อนนี้มันก็ไม่ได้มีอิทธิพลกับชีวิตเราอีกต่อไป
การคิดแบบนี้ไปเรื่อยๆ จะทำให้สมองเรา "ชินชา" และคิดไปเองว่าเงินนี้เราได้เสียมันไปแล้ว ทำให้เวลาเกิดสถานการณ์คับขัน หรือตอนที่ตลาด Panic Sell เราจะรู้สึกไม่หวั่นไหวไปตามตลาด
แต่เนื่องจากว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ทำได้ยาก นักจิตบำบัดเลยเสนอว่า สิ่งที่นักลงทุนทำได้คือ "ปิดจอ" และอย่าไปอ่านข่าวมากจากตลาดหุ้น
ไปทำหน้าที่ของตัวเอง เช่น ทำงานประจำ หรือทำงานที่ตัวเองสนใจ เช่น วาดภาพ ทำความสะอาดบ้าน จัดบ้าน เล่นเกม เพื่อลืมเรื่องเงิน
พอเวลาผ่านไป 2-3 วัน ความรู้สึกจะกลับมาเหมือนเดิม เวลานั้นเราค่อยมาดูตลาดอีกทีว่าควรจะวางแผนอย่างไร
พูดง่ายๆ คือ วันที่เรากลัว จิตใจเราแกว่งตามตลาด สิ่งที่ควรทำคือ "ปิดจอ" ครับ ...