เวลานักลงทุนจะซื้อขายหุ้น ส่วนใหญ่มักจะฟังความเห็นจากนักลงทุนผู้มีชื่อเสียงระดับโลก หรือนักวิเคราะห์หุ้นที่มีชื่อเสียง
ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว มักจะเป็นการลงทุนที่ให้ผลขาดทุนมากกว่า 
จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้ามีนักลงทุนหลายคนมักจะเข้าใจว่า
ถ้านักวิเคราะห์แนะนำ "ขาย" ... นักลงทุนควร "ซื้อ"
ถ้านักวิเคราะห์แนะนำ "ซื้อ" ... นักลงทุนควร "ขาย" 
ฟังดูแล้วมันอาจจะเป็นเรื่องตลก แต่มันได้เกิดขึ้นจริงๆแล้วในชื่อว่า "Inverse ETF" ...

ETF คือ กองทุนรวมดัชนีมีนโยบายการลงทุนตามดัชนีต่างๆ เช่น การลงทุนใน SET50 หรือกองทุนที่อ้างอิงกับ S&P500 โดยจุดประสงค์ คือ สร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของดัชนีมากที่สุด
แต่สำหรับกองทุน Inverse ETF คือ กองทุนรวมดัชนี (รวมหุ้น) ที่มีนโยบายสวนทางกับผู้ที่เชี่ยวชาญให้การแนะนำ

เมื่อไม่นานมานี้ กองทุน Inverse Jim Cramer ETF ถูกยื่น Filling เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก โดยจะเริ่มเทรดในวันที่ 19 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ใน Ticker ที่ชื่อว่า "SJIM"

การออกกองทุนสวนทางคำแนะนำของ Jim Cramer ทำให้เจ้าตัวไม่พอใจอย่างมาก

Jim Cramer คือ กูรูหุ้น นักวิเคราะห์ นักดำเนินรายการสื่อทางด้านหุ้นที่มีชื่อเสียงในชื่อรายการว่า Mad Money หรือ "เงินคลั่ง"
เขามักจะพูดถึงชื่อหุ้นบ่อยๆ แนะนำนักลงทุนเป็นประจำว่าหุ้นตัวไหนควรซื้อ และหุ้นตัวไหนควรขาย
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วหุ้นที่เขาแนะนำมักจะเป็น "หุ้นร้อน" ประเภทเก็งกำไร มากกว่าที่จะเป็นการลงทุนระยะยาว 
แน่นอนว่าการเก็งกำไรมีคนที่ทำกำไรได้ ก็ต้องมีคนที่ขาดทุนเช่นเดียวกัน
ดังนั้น บริษัทจัดการกองทุน Tuttle Capital Management  จึงจับเอาไอเดียนี้จัดตั้งกองทุน "SJIM"
เพื่อหวังทำกำไรจากคำแนะนำของกูรูหุ้น Jim Cramer

โดยถ้า Jim Cramer แนะนำซื้อหุ้นตัวไหน หรือมีพอร์ตหุ้นตัวอย่าง 
กองทุนจะเข้าไปซื้อ "Shot ในสัญญาอ้างอิงหุ้นตัวนั้นๆ" เพื่อทำกำไร
ในขณะเดียวกัน ถ้า Jim Cramer แนะนำขายหุ้นตัวไหน
กองทุนจะเข้าไปซื้อ "Long ในสัญญาอ้างอิงหุ้นตัวนั้นๆ" เพื่อทำกำไร
พูดง่ายๆ คือ แทงสวนกับความเห็นของ Jim Cramer นั่นเอง
โดยกองทุนระบุว่า กองทุนประเภทนี้ คือ Active Fund ที่จะคอยติดตามการเคลื่อนไหวของ Jim Cramer ตลอดเวลาทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นสื่อ CNBC หรือ Twitter 
กองทุนจะถือสินทรัพย์เสี่ยง 80% และเงินสด 20%

อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องผิด ถ้านักลงทุนอยากจะเชื่อในความเห็นของ Jim Cramer โดย Tuttle Capital Management ก็มีการออกกองทุน ETF อีกแบบหนึ่งที่ชื่อว่า "Long Cramer ETF" ชื่อย่อ คือ "LJIM"
โดยกองทุนจะซื้อหุ้นตามความเห็นของ Jim Cramer

ฟังดูแล้วอาจจะเหมือนเรื่องตลก แต่กลยุทธ์ประเภท "แทงสวน" ผู้เชี่ยวชาญเคยได้ผลดีมาแล้ว เช่น ในกรณีของ Cathie Wood
มีกองทุน ETF ชื่อ AXS Short Innovation Daily ETF ชื่อย่อ คือ "SARK" ซึ่งเป็นกองทุนดักช๊อตหุ้นของ Cathie Wood นั่นเอง
พูดง่ายๆ คือ ผลตอบแทนของกองทุนจะสวนทางกับกองทุน ARK Innovation ETF (ARKK) ที่บริหารโดย Cathie Wood

กองทุน SARK ให้ผลตอบแทน 66% โดยสวนทางกับกองทุน ARKK

โดยกองทุน SARK ให้ผลตอบแทนสูงถึง 66% ใน 1 ปี 
ติด Top10 กองทุน ETF ที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดของปีนี้ ...

ดังนั้น กองทุน ETF ประเภท "แทงสวน" ผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ
เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วหุ้นที่ร้อนแรง เป็นที่จับตาของนักลงทุน "ทุกคน" อาจจะเป็นสัญญาณว่าหุ้นตัวนั้นได้ทำจุดสูงสุดไปแล้ว 
ก็เป็นได้

--------------------------------------------
Reference

benzinga.com [1]

benzinga.com [2]

Axsinvestments.com

finance.yahoo.com