การที่ กนง. เริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ที่ระดับ 0.25% ทำให้ดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 1%
เราจะเริ่มเห็นแบงก์พาณิชย์ขนาดใหญ่เริ่มปรับดอกเบี้ยขึ้นตาม นำโดย BBL และตามมาด้วย TTB
ไม่กี่วันต่อมาทั้ง BAY และ KBANK ต่างก็ปรับขึ้นดอกเบี้ยตามกันมาติดๆ
ถามว่า เราจะเห็นธนาคารขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งหรือไม่ ในปีนี้
คำตอบ คือ มีความเป็นไปได้ ...
เพราะแบงก์ชาติยังเหลือการประชุมอีก 1 ครั้ง ซึ่งแนวโน้มคือการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ทำให้ดอกเบี้ยมาแตะระดับ 1.25%
เราน่าจะเห็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารอีกครั้งช่วงปลายปี ...
ประเด็นที่น่าสนใจ คือ การปรับขึ้นดอกเบี้ย จะส่งผลอย่างไรต่อกลุ่มธนาคารในภาพรวม
คำตอบคือ ส่งผลบวกต่อส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin หรือ NIM) ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ที่นักลงทุนจะเห็นอย่างชัดเจน
แต่ "ผลบวก" ที่กล่าวในข้างต้น จะไม่ได้มาก เพราะระยะเวลาในการคิดอัตราดอกเบี้ยใหม่อยู่ที่ราวๆ 90 วัน
นั้นหมายความว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารครั้งนี้ยังไม่ครอบคลุมต้นทุน FIDF ที่จะเพิ่มเป็น 0.46% เทียบกับ 0.23% ของฐานเงินฝาก จึงต้องมีการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งเพื่อบริหารจัดการ NIM
และหากปีหน้า กนง. ขึ้นดอกเบี้ยอีกเป็น 1.50% -1.75% จึงจะเริ่มเห็น Upside ต่อประมาณการกำไรสุทธิของกลุ่มธนาคาร
พูดง่ายๆ คือ ปี 2565 อาจจะยังไม่เห็นอะไรมาก แต่จะเห็นอย่างชัดเจนในปี 2566 ....
ฝ่ายวิจัยเอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า การเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงของ NIM จะส่งผลกระทบต่อ BBL และ KTB มากกว่า
รองลงมาเป็น KBANK และ SCB
ทั้งนี้ ราคาหุ้นในปัจจุบันซื้อขายบน P/BV Ratio ที่ไม่แพง และสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นจะทำให้สภาวะขาลงของกลุ่มแบงก์มีไม่มาก เพราะเราอาจจะได้เห็นผลประกอบการของกลุ่มแบงก์เติบโตในปี 2566
---------------------------------------
Reference