รู้หรือไม่ว่า ค่าเงินบาท อ่อนตัวไปแล้วเท่าไร ? 
... เฉพาะเดือนสิงหาคมอย่างเดียว อ่อนค่าลงไป 5.5% 
... เฉพาะต้นปีจนมาถึงปัจจุบัน อ่อนค่าลงไป 12.3%

ทำให้เกิดคำถามที่ว่า การอ่อนค่าระดับนี้เกิดจากอะไรกันแน่ 
และที่สำคัญสถานการณ์แบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติหรือไม่
คำตอบ คือ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเรื่อง "ปกติ" 
และเป็นเรื่องของการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาห์เพียงอย่างเดียว ท่ามกลางเศรษฐกิทไทยที่ฟื้นตัว

ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์กรุงศรี มองว่า ไม่มีอะไรผิดปกติ เพราะถ้าเราดูจากค่าเงินดอลลาห์อย่างเดียวพบว่าแข็งค่าขึ้นมาราวๆ 17% นับตั้งแต่ต้นปี ซึ่งเป็นผลมาจากการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ถามว่าค่าเงินบาทจะเป็นยังไงต่อไป และจะหยุดอ่อนค่าเมื่อไร ? 
คำตอบ คือ ขึ้นอยู่กับเงินเฟ้อของสหรัฐว่าจะลดความร้อนแรงลงเมื่อไร ... 
ถ้าเงินเฟ้อสหรัฐเริ่มแผ่วลง เราอาจจะเห็นเงินบาทกลับมาแข็งค่า 
ซึ่งกรอบระยะเวลาน่าจะปลายปีนี้ หรือไม่ก็ต้นปีหน้า จาก 4 ข้อสังเกต ประกอบไปด้วย 
1. เงินเฟ้อสหรัฐลดความร้อนแรงลง
2. ดอลลาห์แข็งค่าอย่างรวดเร็ว จากนี้น่าจะแข็งต่อน่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย
3. เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวชัดเจน 
4. เศรษฐกิจของประเทศอื่น นอกจากสหรัฐจะกลับมาฟื้นตัว

ฝ่ายวิจัยยังมองอีกด้วยว่า ประเด็นเรื่องการอ่อนค่าของค่าเงินครั้งนี้จะกระทบค่อนข้างน้อย ด้วย 2 เหตุผลด้วยกันคือ
1. ประเทศไทยมีเงินทุนสำรองสูงถึง 1.95 แสนล้านดอลล่าห์สหรัฐ ซึ่งเทียบเท่ากับการส่งออก 10 เดือน 
2. ระดับหนี้ต่างประเทศของไทยอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ คิดเป็น 37% ของ GDP ซึ่งต่ำกว่าในอดีต ที่เคยสูงถึง 72% ช่วงปี 2543

ดังนั้น การขึ้นดอกเบี้ยของ ธปท. ที่ 25% ฝ่ายวิจัยมองว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม 
และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขึ้นดอกเบี้ยให้เร็วและแรงเท่ากับเฟด เพราะว่า
เงินเฟ้อส่วนใหญ่ของอเมริกา มาจากฝั่งอุปสงค์ 
ในขณะที่ประเทศไทยมาจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นเป็นหลัก 
ซึ่งหมายความว่าการดำเนินนโยบายการเงินที่ตึงตัว ควรน้อยกว่าทางฝั่งอเมริกา อยู่แล้ว

--------------------------------------------
Reference

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี