โดย stock2morrow
1,722 viewsช่วงนี้เรามักจะได้ยินข่าวเรื่อง การปรับลดขนาดองค์กรของ Shopee
... การยกเลิกกิจการในบางประเทศ เช่น อาร์เจนตินา ฝรั่งเศส อินเดีย สเปน
... ลดบางแผนก และการบริการลง เช่น ชิลี เม็กซิโก ประเทศในกลุ่มอาเซียน
... หรืออย่างดีที่สุด คือ การลดคนงาน เช่น จีน อินโดนีเซีย สิงคโปร์ รวมถึงประเทศไทย ด้วย
เราไม่ได้พูดถึงแค่ Shopee เพียงอย่างเดียว แต่เรากำลังพูดถึงบริษัท "เจ้าของ" Shopee อย่าง SEA
SEA บริษัทสัญชาติสิงคโปร์ที่มี 3 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจเกม (Garena)
ธุรกิจ E-commerce คือ Shopee
ธุรกิจให้บริการทางการเงิน คือ SeaMoney
สำหรับธุรกิจเกม เป็นธุรกิจติดลมบนของ SEA ที่มีกำไรและดูท่าจะไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
เหลือเพียง 2 ธุรกิจหลักที่ยัง "ขาดทุน" อยู่ คือธุรกิจ Shopee และ SeaMoney
และเป้าหมายของการ "ลดขนาดองค์กร" คือ การตั้งเป้าให้ EBITDA ของบริษัทกลับมาฟื้นตัวให้ได้ .. ซึ่งสิ่งแรกที่ต้องทำ คือ การปรับลดพนักงานลง
รายงานจาก Bloomberg และ Business Insider รายงานตรงกันว่า บริษัทมีการประกาศลดพนักงานในอินโดนีเซีย สิงคโปร์ และจีน ลงโดยให้เหตุผลว่าท่ามกลางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน
โดยจำนวนพนักงานของ Shopee ในเอเชียมีทั้งหมด 6,232 คน จะถูกให้ออกราวๆ 3% หรือประมาณ 380 - 400 คน ไม่เพียงแค่นั้น กลุ่มผู้บริหารระดับสูงของบริษัทประกาศต่อพนักงานว่า พวกเขาจะไม่รับเงินเดือนจนกว่าบริษัทจะมีกระแสเงินสดกลับมาเป็นบวก
ไม่ใช่แค่ Shopee อย่างเดียว ... แต่บริษัท SeaMoney ก็ยังขาดทุนอย่างหนักด้วยเหมือนกัน โดยไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ขาดทุนอย่างมากในประเทศกลุ่มอาเซียน
มีเพียงแค่ไต้หวันประเทศเดียวที่การขาดทุน "ลดลง" แต่ก็ยังขาดทุนอยู่
ผลประกอบการที่ผ่านมา ..
ในปี 2018 บริษัทมีรายได้ 0.82 พันล้านเหรียญ ขาดทุนสุทธิ 0.96 พันล้านเหรียญ
ในปี 2019 บริษัทมีรายได้ 2.17 พันล้านเหรียญ ขาดทุนสุทธิ 1.46 พันล้านเหรียญ
ในปี 2020 บริษัทมีรายได้ 4.37 พันล้านเหรียญ ขาดทุนสุทธิ 1.61 พันล้านเหรียญ
ในปี 2021 บริษัทมีรายได้ 9.95 พันล้านเหรียญ ขาดทุนสุทธิ 2.04 พันล้านเหรียญ
จะเห็นได้ว่าบริษัทขาดทุนอย่างต่อเนื่อง และขาดทุนหนักมากขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่ง "โจทย์หลัก" ที่บริษัทต้องแก้ไขให้ได้ คือ
1. การทำให้ EBITDA ของบริษัทกลับมากำไรให้ได้
2. การทำให้กระแสเงินสดกลับมาเป็นบวก
ประเด็น คือ เมื่อไร ?
นักวิเคราะห์จาก Business Insider แสดงความคิดเห็นว่าการปรับโครงสร้างองค์กรน่าจะทำให้ EBITDA และ Free Cash Flow ของบริษัทกลับมาดีขึ้น แต่ยังไม่ถึงขั้นกลับมาบวกได้ ภายในครึ่งปีแรกของปี 2023
ดังนั้น เราอาจจะได้เห็นข่าวการปรับลดคนงาน ยุบบางแผนก และการบริการในบางประเทศ หรืออย่างแย่ที่สุด คือการปิดกิจการในประเทศนั้นๆไปเลย
อนึ่ง ราคาหุ้น SEA ลงมาแล้วกว่า 83% ใน 1 ปี ...
--------------------------------------------
Reference
