สภาวะเศรษฐถดถอย เงินเฟ้อพุ่งขึ้น ต้นทุนพลังงานสูง และดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นพร้อมกันทั่วโลก
ล้วนเป็นปัจจัยกดดันทำให้ภาพของเศรษฐกิจออกมาไม่ดี และกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด น่าจะเป็นเรื่องของการจ้างงาน
ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เรามักจะได้ยินข่าวว่าบริษัทขนาดใหญ่ประกาศ "ลดคนงาน" ลงมหาศาล ..
จากข้อมูลของ GlobalData รายงานว่า...
มีบริษัทยักษ์ใหญ่กว่า 60 บริษัทประกาศลดคนงานลง ปรับลดการจ้างงาน ไม่เปิดรับสมัครงานใหม่มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2022 มาแล้ว
โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด 3 อันดับแรก คือ
1. กลุ่มบิ๊กเทค ... ยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยี
2. กลุ่มค้าปลีก
3. กลุ่มการเงิน ธนาคาร และกลุ่มยานยนต์ได้รับผลกระทบเกือบเท่าๆกัน
กลุ่มแรก คือ ยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยี
ไม่ว่าจะเป็น Apple, Microsoft, Tencent, Xiaomi ประกาศปรับลดคนงานอย่างต่อเนื่อง
... Microsoft ลดคนงานลง 1% และคาดว่าจะปรับลดอีกราวๆ 200 คน ในแผนก R&D
... Apple ประกาศลดค่าใช้จ่าย โดยสิ่งแรกที่ทำคือ ปรับลดคนงานลงราวๆ 100 คน ทั่วโลก และมีแผนจะปรับลดให้มากขึ้น
... Netflix ลดคนงานลง 200 คน หรือคิดเป็น 2% ของจำนวนคนงานทั้งหมด
... Tesla ประกาศยุติการจ้างงาน 10% ทั่วโลก
หรืออย่างล่าสุด Shopee ที่ได้ปิดการให้บริการในบางประเทศ ยุติการจ้างงานลงทั้งหมดมาก่อนหน้านี้ ประกาศลดพนักงานในประเทศจีนลง 10% ในแต่ละแผนก และลดพนักงานลง 3% ในอินโดนีเซีย จากเศรษฐกิจชะลอตัวและผลประกอบการที่ไม่ได้ตามเป้า
กลุ่มสอง คือ กลุ่มค้าปลีก
... Walmart ประกาศลดคนงานลง 200 คน เพื่อทุ่มงบประมาณไปลงทุนทางด้าน E-Commerce, และในธุรกิจดูแลสุขภาพ (Wellness)
... Alibaba ประกาศลดคนงานลง 1 หมื่นคนในสำนักงานใหญ่ที่เมืองหางโจว เพื่อลดค่าใช้จ่ายและรักษาสภาพคล่องของบริษัท โดยส่วนหนึ่งมาจากการควบคุมเข้มงวดจากทางภาครัฐ ทำให้บริษัทต้องลดค่าใช้จ่ายและปรับโครงสร้างทางธุรกิจ
นอกจากนี้ยังมี Best Buy, Bath & Body Works, Groupon, Wayfair ที่ได้ประกาศลดพนักงานไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
กลุ่มสาม คือ การเงิน ธนาคาร และกลุ่มยานยนต์
รายงานของ GlobalData ได้กล่าวถึงบริษัทวาณิชยกิจยักษ์ใหญ่อย่าง Credit Suisse และ Ford
โดย Credit Suisse ได้ลดการรับพนักงานใหม่ลงราวๆ 35% และ Ford กำลังจะลดคนงานลงราวๆ 3000 คนทั่วโลก
รายงานของ GlobalData สรุปว่าโลกของเราอาจจะกำลังเจอกับการว่างงานเพิ่มขึ้นอีกมหาศาล
โดยเฉพาะใน 2 ประเทศ คือ อินเดียและจีน ที่น่าจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด
-------------------------------------------
Reference