ถ้าใครติดตามตลาดการเงินช่วงกลางคืนจะพบว่าตลาดหุ้นทางฝั่งสหรัฐอเมริกาปรับตัวเพิ่มขึ้นสดใส เฉลี่ยราวๆ 1-2%  ส่งผลให้ตลาดเอเชียเช้านี้แกว่งตัวไปในทิศทางบวก
ในขณะที่ตลาดน้ำมันกลับร่วงแรงทำจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือน
ตลาดน้ำมันร่วงลงเฉลี่ย 3-5% 
โดยมาอยู่ที่ราวๆ 81-93 เหรียญต่อบาร์เรล

ถามว่า ตลาดให้ความกังวลอะไรกับราคาน้ำมัน
สื่อต่างชาติรายงานว่า นักลงทุนกำลังให้ความกังวลในเรื่องของราคาน้ำมันจาก 2 ประเด็นด้วยกันคือ
1. กังวลว่าเศรษฐกิจอาจจะเข้าสู่สภาวะถดถอยทั่วโลก ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลงมาก
2. การ lockdown เมืองในจีน ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลง การยกเลิกเที่ยวบิน การใช้น้ำมันลดลง

ประเด็นคือ แล้วต่อจากนี้ละ ? 
ฝ่ายวิจัยเอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า ในช่วงที่เหลือของปี 2565 คาดว่า upside ของราคาน้ำมันน่าจะจำกัดมากขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการต่างๆมีการปรับตัวตอนช่วงราคาน้ำมันแพงไปแล้ว ส่งผลให้ความต้องการซื้อและความต้องการขายเข้าสู่สภาวะสมดุลมากขึ้น
อีกทั้งเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะชะลอตัว เป็นอีกแรงกดดันที่ทำให้ราคาน้ำมันแพงต่อไปได้ยาก

ถ้าอย่างนั้น หมายความว่าราคาน้ำมันจะลดลง ใช่ไหม ?
คำตอบก็คือ ไม่ใช่ ... 
เพราะยังมีประเด็นเรื่องของการ "คว่ำบาตร" รัสเซียของประเทศในกลุ่มยุโรป
และช่วงไตรมาส 4 เป็นช่วง High Season ของการใช้เชื้อเพลิงเพื่อทำความร้อน ความต้องการซื้อจะเพิ่มสูงขึ้นคอยหยุงราคาน้ำมันไม่ให้ลงแรงมากนัก

---------------------------------
Reference

Reuters

oilprice.com

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส