เมื่อเร็วๆนี้เราอาจจะได้ยินข่าวว่า Makro พยายามเพิ่มสภาพคล่องของหุ้น หรือ Free Float 
ให้อยู่ที่ 15% จากปัจจุบันอยู่ที่ 13.53% 
เราเคยสงสัยไหมว่า Free Float คืออะไร แล้วทำไมบริษัทจดทะเบียนต้องเพิ่ม Free Float

Free Float คือ ปริมาณการถือหุ้นของนักลงทุนรายย่อย
ซึ่งคำจำกัดความของ "นักลงทุนรายย่อย" คือ
1. ไม่ได้มีส่วนได้เสียในการบริหารงาน
2. ไม่ได้ถือหุ้นเพื่อประโยชน์เชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจ
สมมุติว่า บริษัท X มีหุ้นอยู่ 100 หุ้น อยู่ในมือของนักลงทุนรายย่อย 40 หุ้น หมายถึงบริษัทนี้มีสัดส่วน Free Float อยู่ที่ 40% 
ในขณะที่ผู้บริหารหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องถืออยู่ 60 หุ้น
พูดง่ายๆคือ หุ้นตัวไหนที่มี Free Float สูงๆ แสดงว่า มีนักลงทุนรายย่อยมาก ... สภาพคล่องหุ้นจะสูง
หุ้นตัวไหนมี Free Float ต่ำๆ แสดงว่า มีนักลงทุนรายย่อยน้อย ... สภาพคล่องหุ้นจะต่ำ

ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ก็มีการกำหนดให้ Free Float เป็นหนึ่งในคุณสมบัติข้อสำคัญที่บริษัทจดทะเบียนต้องปฏิบัติตาม โดยเกณฑ์ขั้นต่ำคือ บริษัทจดทะเบียนต้องมีสัดส่วน Free Float ไม่น้อยกว่า 15% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ชำระแล้ว

หลายๆบริษัทก็อยากจะเพิ่ม Free Float เพราะเป็นการดึงดูดกลุ่มนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนสถาบันในประเทศ กองทุนต่างชาติ นักลงทุนรายใหญ่ที่มีชื่อเสียงเข้ามาถือหุ้นเพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับหุ้น และเป็นการสะท้อนราคาหุ้นได้ดีกว่า

อ่านมาถึงตรงนี้เราอาจจะสงสัยว่า ? 
1. Free Float ที่ดีต้องมีค่าสูง หรือ ต่ำ
2. นักลงทุนสามารถใช้ค่า Free Float มาปรับใช้กับการลงทุนได้อย่างไร

คำถามแรก : Free Float ที่ดีต้องมีค่าสูง หรือ ต่ำ
... Free Float ต่ำ หมายถึง มีสภาพคล่องต่ำในการซื้อขายหุ้นตัวนั้น การซื้อขายหุ้นจำนวนมากจึงทำได้ค่อนข้างยาก
... Free Float สูง หมายถึง มีสภาพคล่องสูงในการซื้อขายหุ้นตัวนั้น การซื้อขายหุ้นจำนวนมากจึงเป็นไปได้ง่าย
ซึ่ง "สภาพคล่อง" จะเป็นปัจจัยสำคัญในการเข้าลงทุนของนักลงทุนสถาบันในประเทศ รวมถึงนักลงทุนรายใหญ่

สาเหตุเป็นเพราะว่าบริษัทที่มีความแข็งแกร่งฐานะทางการเงิน ธุรกิจมีศักยภาพ ใครๆก็สนใจที่จะอยากลงทุน 
แต่ถ้าซื้อหุ้นแล้วไม่สามารถที่จะขายได้ หรือการขายเป็นไปด้วยความยาก เพราะคนเข้ามารับซื้อต่อมีจำนวนน้อยเกินไป ก็อาจจะพิจารณาไม่เข้าลงทุน
หุ้นที่มี Free Float สูง หรือสภาพคล่องที่สูงกว่า จะได้เปรียบตรงจุดนี้

คำถามข้อสอง : นักลงทุนสามารถใช้ค่า Free Float มาปรับใช้กับการลงทนได้อย่างไร 
หุ้นที่มี Free Float สูง สภาพคล่องสูง มักจะสะท้อนมูลค่าที่ควรจะเป็นได้ดีกว่าหุ้นที่มี Free Float ต่ำ 
หมายความว่า หุ้น Free Float สูง มีการเปลี่ยนมืออยู่ตลอดเวลา ทำให้ราคาแกว่งตัวในระดับราคาที่เหมาะสมกับมูลค่าของหุ้นที่ควรจะเป็น 
ในขณะเดียวกันหุ้นที่มี Free Float ต่ำ แสดงว่าหุ้นส่วนใหญ่อยู่ในมือของนักลงทุนรายใหญ่เพียงไม่กี่คน สามารถที่จะถูกควบคุมราคาได้ง่ายกว่า 
เช่น โดนกดราคาหุ้นเป็นเวลานาน เพื่อบีบให้คนที่ถือหุ้นขายของออกมา
หรือลากหุ้นขึ้นไปหลายสิบเท่า ในระยะเวลาอันสั้น

ดังนั้น  Free Float จึงมีความสำคัญไม่ใช่ในแง่ของบริษัทจดทะเบียนเพียงอย่างเดียว แต่ในแง่ของผู้ลงทุนก็สำคัญไม่แพ้กัน ครับ