ผลประกอบการของบ้านปูไตรมาส 2 ล่าสุด ออกมาเพิ่มขึ้น 24.6% จากไตรมาสที่ 1 ในปีเดียวกัน ทำให้กำไรสุทธิมาอยู่ที่ระดับ 1.28 หมื่นล้านบาทซึ่งหลักๆมาจากการขายถ่านหิน และราคาก๊าซที่ปรับเพิ่มขึ้น
ส่งผลต่อราคาหุ้นที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมวอลุ่มที่เข้ามาซื้อขายเป็นจำนวนมาก
ประเด็นที่น่าสนใจ คือ หลังจากนี้บ้านปูจะมียังอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง ?
ปัจจัยบวกของบ้านปู จะประกอบไปด้วย 4 ปัจจัยที่อยากจะเล่าให้ฟังแบบนี้ครับ ...
1. แผนการลงทุนของบริษัทมีความชัดเจน
เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวว่าบ้านปู เดินหน้าสู่กลยุทธ์ Greener & Smarter
ซึ่งกลยุทธ์ Greener & Smarter คือการเร่งเปลี่ยนผ่านธุรกิจขยายพอร์ตไปสู่พลังงานสะอาดขึ้น และเทคโนโลยีพลังงาน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือทุกความผันผวน รวมทั้งสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
โดยบริษัทจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มธุรกิจ คือ
ธุรกิจที่ไม่ใช่พลังงาน ได้แก่ ลงทุนในกองทุนเฮลท์แคร์ ในสหรัฐอเมริกา และขั้นตอนต่อไปจะเป็นการขยายการลงทุนโดยตรงในธุรกิจเฮลแคร์ในอเมริกาอีกด้วย รวมถึงการค้นหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆในอนาคต เช่น ธุรกิจรถไฟฟ้า
ธุรกิจพลังงาน ได้แก่ การขยายโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในรัฐเท็กซัส การลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนที่เวียดนาม พลังงานลม พลังงานโซล่าร์ฟาร์มที่ลงทุนไปแล้ว 3 โครงการ รวมถึงธุรกิจแบตเตอร์รี่และธุรกิจการซื้อขายไฟในตลาดเสรี
2. ราคาขายถ่านหินยังสูงต่อเนื่อง
ราคาถ่านหินตลาด Newcastle อยู่ที่ 416 เหรียญ เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสที่ 1 และเพิ่มขึ้น 153.3% yoy ซึ่งประเด็นส่วนใหญ่มาจากวิกฤตพลังงานในยุโรป ทำให้ความต้องการถ่านหินเพิ่มขึ้น
3. ยอดขายก๊าซจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3
การเข้าลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติ Barnett เพิ่มขึ้น (ปัจจุบันรวมถือ 96.12%) ทำให้รับรู้รายได้เพิ่มขึ้น พร้อมกับราคาก๊าซก็ยังทรงตัวอยุ่ในระดับสูง
อีกทั้งช่วงปลายปีเป็น Seasonal Demand จากสภาพอากาศที่หนาวเย็น เป็นปัจจุบัยหนุนราคาขายก๊าซให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
4. ธุรกิขไฟฟ้ายังแข็งแกร่ง
ผลประกอบการของ BPP เติบโตทั้ง qoq และ yoy อีกทั้งไตรมาส 3 ที่จะถึงนี้เป็น High Season ของโรงไฟฟ้าในสหรัฐ และจีน
โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเวียดนาม เริ่มรับรู้รายได้ คาดว่าธุรกิจของ BPP ไตรมาส 3 จะเป็นจุดสูงสุดของปี 2565
จาก 4 ปัจจัยที่กล่าวมา บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียเวลล์ มองว่ากำไรทั้งปีของ Banpu จะอยู่ที่ 4.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 346% yoy ซึ่งออกมาดีมากในปี 2565 และจะยังดีต่อเนื่องไปจนถึงปี 2566
อีกทั้งบริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งในระยะยาว ผลการดำเนินงานดี ถือเป็นหุ้นที่น่าสนใจจากผลประกอบการที่เติบโตอย่างโดดเด่นในปีนี้ครับ
--------------------------------------
Reference