ช่วงนี้กระแสหุ้นร้อนคงไม่มีแรงไปกว่าหุ้น KCC หรือบริษัท บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ที่เปิดเผยข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์ว่ามีนักลงทุนรายใหญ่เข้าไปซื้อกันเป็นจำนวนมาก เช่น
... นาย สถาพร งามเรืองพงศ์ (เซียนฮง) ถืออยู่ 3.11%
... นาย สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล (เสี่ยปู่) ถืออยู่ 1.75%
... นาย สุระ คณิตทวีกุล (เจ้าของ COM7 มหาเศรษฐีไทยอันดับที่ 49) ถืออยู่ 1.13%
... นาย วัชระ แก้วสว่าง (เสี่ยป๋อง) ถืออยู่ 0.65%
ทำให้เกิดความน่าสนใจว่า KCC ทำธุรกิจอะไร ทำไมนักลงทุนรายใหญ่ถึงเข้าซื้อกันเป็นจำนวนมาก

KCC ทำธุรกิจ จัดหาและการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ รวมถึงการบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย และการปรับปรุงทรัพย์สินรอการขายเพื่อจำหน่าย ซึ่งมีธุรกิจหลัก 2 กลุ่ม คือ
1. ธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPLs)
2. ธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย (NPA)
เข้ามาจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นไทยเมื่อวันที่ 5 เดือนพฤษภาคม ปี 2565 ที่ผ่านมานับเป็นหุ้น IPO ที่ทำผลตอบแทนได้ดีที่สุดสำหรับปีนี้ โดยราคาเสนอขายอยู่ที่ 3.70 บาท และราคาเปิดอยู่ที่ 6.20 บาท ก่อนจะวิ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 9.20 บาท ให้ผลตอบแทนราวๆ 200% จากคนที่ซื้อราคา IPO
ประเด็นคือการเปิดราคา IPO สร้างกระแสที่ดีให้กับนักลงทุนอาจจะยังไม่ดีเพียงพอ
ถ้าผลประกอบการของบริษัทไม่ได้ดีตามไปด้วย แต่สำหรับ KCC พบว่า ...
ปี 2562 บริษัทมีรายได้ 57.10 ล้านบาท กำไรสุทธิ 12.03 ล้านบาท
ปี 2563 บริษัทมีรายได้ 128.10 ล้านบาท กำไรสุทธิ 49.06 ล้านบาท
ปี 2564 บริษัทมีรายได้ 106.16 ล้านบาท กำไรสุทธิ 52.42 ล้านบาท
ปี 2565 ผลประกอบการ 6 เดือน บริษัทมีรายได้ 108.48 ล้านบาท กำไรสุทธิ 52.42 ล้านบาท กำไรสุทธิ 61.87 ล้านบาท
... ซึ่งผลประกอบการ 6 เดือนของปี 2565 ก็ทำรายได้และกำไรสุทธิมากกว่าทั้งปีของปี 2564 แล้ว คาดว่าช่วงครึ่งหลังของปีบริษัททำผลงานได้ ผลประกอบการมีแนวโน้มจะแตะระดับจุดสูงสุดใหม่ได้ไม่ยาก
จากผลประกอบการที่เราเห็นพบว่ามีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมๆกับอัตรากำไรสุทธิที่อยู่ระดับ "สูงมาก"
โดยในปี 2562 อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 19.16%
ในปี 2563 อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 34.74%
ในปี 2564 อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 49.38%
และผลประกอบการ 6 เดือน ในปี 2565 อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 57.04%
ดังนั้น ความน่าสนใจของ KCC น่าจะประกอบไปด้วย 3 เหตุผล คือ
1. อยู่ในธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโต ถึงแม้จะเป็นน้องใหม่ในตลาด แต่มีประสบการณ์ในธุรกิจนี้มานาน จึงเป็นจุดแข็งที่ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุน
2. ผลประกอบการเติบโตอย่างโดดเด่น
3. บริษัทมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ในระดับสูง ช่วยผลักดันให้กำไรสุทธิของบริษัทอยู่ในระดับสูงตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น
ปัจจุบันหุ้น KCC เทรดที่กันที่ค่า P/E 63.43 เท่า P/BV 4.72 เท่า
-------------------------------------------
Reference