#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

การมีภาพยนตร์มากเกินไป กำลังเป็นวิกฤตของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
620 views

ในอดีตแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งไหนมีคอนเทนต์ให้ดูมากกว่า จนทำให้ผู้บริโภคคิดว่าคุ้มค่ากว่าที่จ่ายเงินไปจะเป็นตัวเลือกแรกๆของผู้บริโภค 
จึงไม่แปลกใจที่เราจะเห็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งใหญ่ๆพยายามดึงภาพยนตร์หรือซีรีย์ดังๆมาฉายในแพลตฟอร์มตัวเอง เช่น Netflix หรือ Disney+ ให้นานที่สุด หรือไม่ก็ทุ่มงบมหาศาลในการสร้างภาคต่อ
ซึ่งการสร้างภาคต่อ คือต้นทุนขนาดใหญ่และความท้าทายของเจ้าของแพลตฟอร์มอย่างมาก และสิ่งนั้นเป็นสาเหตุทำให้ Netflix กำลังประสบปัญหาที่เป็นอยู่ตอนนี้ ...

แต่เรารู้หรือไม่ว่า วิกฤตของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งครั้งต่อไปของพวกเขาอาจจะมาจาก 2 เรื่องด้วยกัน คือ
1. มีเยอะมาก จนไม่รู้จะดูอะไร
2. มีเยอะเกินไป จนกลายเป็นค่าใช้จ่ายของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ซะเอง ...

 

เมื่อไม่นานมานี้ผู้บริหาร Warner Bros เจ้าของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง HBO Max ประกาศลดค่าใช้จ่ายของบริษัท 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะมุ่งเน้นไปที่การเอาภาพยนตร์และซีรีย์ที่อยู่ใน HBO Max ออกจากแพลตฟอร์มของตัวเอง
สำนักข่าว CNN รายงานว่า HBO Max กำลังเอาซีรีย์ ภาพยนตร์ กว่า 20 เรื่องออกจากแพลตฟอร์มของตัวเอง พร้อมกับประกาศยกเลิกรายการอย่าง Generation, Infinity Train, Vinyl และ The Not Too Late Show with Elmo ซึ่งมาจาก 3 เรื่องด้วยกันคือ ลดต้นทุนของแพลตฟอร์ม ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางด้านเนื้อหา และเอาเนื้อหาที่ไม่ได้รับความนิยมออกไปเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

CNN รายงานว่าการเอาภาพยนตร์ขึ้นไปฉายบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ทางเจ้าของแพลตฟอร์ยังคงต้องจ่ายเงินให้กับนักแสดงและเจ้าของลิขสิทธิ์ ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านั้น "สูงมาก" 
... การเก็บรายการไว้บนแพลตฟอร์มนั้นมีค่าใช้จ่าย ...
ว่ากันว่าการเอา 20 ซีรีย์และภาพยนตร์ออก สามารถประหยัดต้นทุนไปได้มากกว่า 100 ล้านเหรียญต่อปี

 

เดวิด ซาสลาฟ ซีอีโอคนใหม่ของ Warner Bros. Discovery  แสดงความคิดเห็นว่า
"ทิศทางของวงการสตรีมมิ่งยังไม่มีใครรู้ แต่โดยพื้นฐานแล้วเทรนกำลังไปทางนั้น ผู้บริโภคมีตัวเลือก จ่ายถูกกว่า ลูกค้าคือพระเจ้า และมันก็จะเป็นแบบนั้นตลอดไป ... "
ทั้งนี้ HBO Max จะมุ่งเน้าไปที่การสร้างรายได้จากโฆษณา ค่าธรรมเนียมสายเคเบิล และการหารายได้จากบ็อกซ์ออฟฟิศ รวมถึงการสตรีมมิ่ง แตกต่างจากผู้บริหารคนก่อนที่มุ่งเน้นแต่แอปสตรีมมิ่งเพียงอย่างเดียว

 

สอดคล้องกับทาง Netflix ที่เมื่อไม่นานมานี้ประกาศยกเลิกการสนับสนุนซีรีย์ชื่อดังอย่าง Resident Evil ซึ่งทางนักวิเคราะห์ CNBC มองว่าทาง Netflix อาจจะยกเลิกการสนับสนุนเงินทุนให้กับค่ายหนังในการสร้างภาคต่ออีกหลายเรื่องๆ ถ้าหนังหรือซีรีย์นั้นไม่ได้ทำเงินมากเพียงพอ 
และปัญหาอีกอย่างหนึ่งของ Netflix คือการมี "อะไรให้ดูมากเกินไป" จนผู้บริโภคไม่รู้ว่าจะดูอะไร และเสียเวลาไปเยอะมากกับการเลือกดู
ทั้งนี้ทาง Netflix ได้แก้ปัญหาด้วยการทำ algorithms และ Top 10 lists ของผู้ใช้แต่ละคนเพื่อให้สะดวกแก่การเลือกดูมากขึ้น
ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่า ทาง Netflix อาจจะต้องพิจารณาการนำภาพยนตร์หรือซีรีย์บางเรื่องออกจากแพลตฟอร์มของตัวเองไปเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

-------------------------------------------
Reference

edition.cnn.com

CNBC


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง