เมื่อคืนที่ผ่านมา Eurostat ได้ประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของกลุ่มประเทศยูโรโซน สูงถึง 9.1% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าน่าจะอยู่ระดับ 9% และถือเป็นตัวเลขที่ทำจุดสูงสุดใหม่
โดยสาเหตุหลักมาจาก 2 ประการ คือ
1. ราคาพลังงานที่ทรงตัวในระดับสูง
เป็นสาเหตุหลักของเงินเฟ้อ โดยโตมากถึง 38.3% yoy ซึ่งเป็นการลดลงเล็กน้อยจากเดือนกรกฏาคม ที่อยู่ระดับ 39.6% yoy แต่ก็ยังถือว่าทรงตัวในระดับสูงมาก
2. สินค้าอาหาร สินค้าเกษตร แอลกอฮอล์ และยาสูบ
ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.6% yoy สูงกว่าเดือนกรกฏาคมที่ระดับ 9.8% yoy ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากภัยแล้ง
ถามว่า แล้วหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ?
ตลาดคาดว่า ECB อาจจะมีการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มสกัดเงินเฟ้อในระยะถัดไป
โดยน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 0.75%
จากครั้งล่าสุดที่ทาง ECB ประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ซึ่งถือว่าเป็นการปรับเพิ่มขึ้นใหม่สูงสุดในรอบ 11 ปี
นักวิเคราะห์จากสถาบัน S&P Global Market Intelligence วิเคราะห์ว่า
"เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าประเทศในกลุ่มยุโรปเกิดเศรษฐกิจถดถอยแน่นอน แต่คำถามสำคัญคือ มันจะลึกแค่ไหนและมันจะจบลงเมื่อไร ..."
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ปัญหานี้น่าจะยังยืดเยื้อและไม่แน่ชัดต่อไปอีก 7 เดือนนับจากนี้ ....
ก็ถือเป็นความท้าทายของเศรษฐกิจโลกกันต่อไปครับ
-------------------------------------------------
Reference