"เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง จะเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจไทย ...."
กำลังจะผ่านภ้นเดือนสิงหาคมไป สิ่งที่นักลงทุนกำลังจับตามองมากที่สุดน่าจะเป็นเรื่องของ "ตัวเลขเงินเฟ้อ" ของเดือนนี้ว่าน่าจะออกมาอยู่ที่เท่าไร
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส มองว่า ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนสิงหาคมน่าจะอยู่ที่ 8.6% yoy ...
โดยในเดือนพฤษภาคม เงินเฟ้อสูง 7.1% yoy
โดยในเดือนมิถุนายน เงินเฟ้อสูง 7.7% yoy
โดยในเดือนกรกฏาคม เงินเฟ้อสูง 7.6% yoy
ในขณะที่เงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาเดือนสิงหาคมจะอยู่ที่ 8.9% yoy จากปัจจัยหลากหลายได้แก่
1. สงครามรัสเซีย - ยูเครน
2. เชื้อเพลิงโลกแพงขึ้น ราคาน้ำมันแพงขึ้น
3. อาหารแพงขึ้น สินค้าเกษตรแพงขึ้น
4. วิกฤตภัยแล้ว
บทวิเคราะห์มองว่าประเด็นเงินเฟ้อสูง เป็นตัวชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นในช่วงนี้
แต่คาดว่าประเด็นนี้น่าจะผ่านจุดพีคช่วงไตรมาส 4 ปีนี้เป็นต้นไป
เมื่อเงินเฟ้อสูง สิ่งที่จะสู้กับเงินเฟ้อได้ คือ การขึ้นดอกเบี้ย
โดยเราจะเห็นว่าหลัง FED พยายามต่อสู้กับเงินเฟ้อหลังการประชุม Jackson Hole เสร็จสิ้น ทำให้นักลงทุนคาดว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยราวๆ 0.75% เป็นครั้งที่ 3
เท่ากับว่าดอกเบี้ยปลายปีนี้จะพีคที่ระดับ 4% เป็นปัจจัยหลักในการกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก ...
ทั้งนี้ ก็ใช่ว่าจะมีแต่ประเด็นลบเพียงอย่างเดียว
เพราะการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ FED น่าจะค่อยๆผ่านจุดสูงสุดและคลายตัวลง ทั้งจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลักๆเริ่มปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจในประเทศกลุ่มยุโรป จะช่วงลดระดับเงินเฟ้อลงได้
บทวิเคราะห์มองว่า อัตราดอกเบี้ยอยู่ในโหมดขาขึ้น แค่คาดว่าจะจบภายในปีนี้ นั้นเอง ...
----------------------------------------------
Reference