รู้หรือไม่ว่านักลงทุนต่างชาติได้ซื้อหุ้นไทยติดต่อกันมา 13 วันทำการ มูลค่ารวมกว่า 4.77 หมื่นล้านบาทเข้าไปแล้ว
แต่ถ้าเราดูยอดซื้อสุทธิในปีนี้ จะพบว่าหุ้นไทยอยู่ในฝั่งซื้อสุทธิกว่า 4.99 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 1.68 แสนล้านบาท
ถือว่าโดดเด่นที่สุดในภูมิภาค
รองลงมา คือ อินโดนีเซีย ที่ต่างชาติซื้อสุทธิในปีนี้ราวๆ 4.58 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ข้อมูลในเดือนสิงหาคมพบว่าต่างชาติไม่ได้ซื้อแค่หุ้นไทยอย่างเดียว ยังกระจายไปยังตลาดหุ้นอื่นอีกด้วย เช่น
ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ซื้อสุทธิ 1.6 หมื่นล้านบาท
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ซื้อสุทธิ 7.5 หมื่นล้านบาท
จะมีเพียง 2 ตลาดที่อยู่ในฝั่งขายสุทธิ คือ
ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ขายสุทธิ 0.49 หมื่นล้านบาท
ตลาดหุ้นไต้หวัน ขายสุทธิ 10.1 หมื่นล้านบาท
ซึ่งเข้าใจได้ว่าความขัดแย้งระหว่างจีนและไต้หวัน เป็นประเด็นหลักให้ต่างชาติขายหุ้นออกมา

จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นว่า ต่างชาติซื้อเกาหลีใต้มากที่สุด 7.5 หมื่นล้านบาทแต่เนื่องจากว่าขนาดของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ใหญ่กว่าของไทย 3 เท่ากว่าๆ
ดังนั้น ถ้าเราปรับสเกลของตลาดให้ใกล้เคียงกัน พบว่าเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยในเชิงเปรียบเทียบมากกว่า เรียกได้ว่า FundFlow กำลังไหลเข้าหุ้นไทย "อย่างหนัก" ก็อาจจะไม่ผิดไปเท่าไรนัก
แล้วหลังจากนี้ละ ?
เรารู้แล้วว่านักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อหุ้นไทยมากที่สุดแล้ว ยังไงต่อ ?
ฝ่ายวิจัยเอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า สัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติในตลาดหุ้นไทย ถือว่ายังน้อยกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต
ปัจจุบันถืออยู่ 21.69% ในขณะที่ผ่านมาเคยถือสูงถึง 30.2% และโดยเฉลี่ยต่างชาติจะถือราวๆ 26.2%
ดังนั้น ฝ่ายวิจัยมองว่า ยังมีช่องว่าให้ต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยเพิ่มเติมได้อีก ...
ประเด็น FundFlow เป็นประเด็นที่น่าติดตาม เพราะจะทำให้ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นได้จากการที่มีเม็ดเงินไหลเข้า ครับ
--------------------------------------
Reference