"หุ้นไทย กำไร All Time High ที่ 3.48 แสนล้านบาท ..."
รู้หรือไม่ว่าหลังการประกาศงบไตรมาส 2 ของปี 2565 เราได้เห็นหุ้นไทยกำไร All Time High ไปแล้วที่ 3.48 แสนล้านบาท
ส่งผลให้หุ้นไทยอาจจะต้องมีการปรับประมาณการขึ้น จากเดิมที่คาดว่าหุ้นไทยน่าจะทำกำไรทั้งปีได้ 1.04 ล้านล้านบาท ปรับมาเป็น 1.13 ล้านล้านบาท
... คิดเป็น EPS ที่ 94.3 บาท/หุ้น (จากเดิมที่ 88.9 บาทหุ้น)
การเพิ่มขึ้นสูงถึง 3.48 แสนล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 26.4% yoy และ 35% qoq
สูงกว่าที่ Bloomberg Consunsus สูงถึง 6%
เมื่อกำไรเพิ่มขึ้น สิ่งที่นักลงทุนจะได้เห็น คืออะไร ?
คำตอบคือ เราจะได้เห็น P/E Ratio หุ้นไทยกำลังลดลง
นั้นหมายถึง หุ้นไทยมี Valuation เพิ่มขึ้น ... การเทรดที่ระดับปัจจุบัน "ถูกลง"
ฝ่ายวิจัยเอเชียพลัส มองว่า หุ้นไทยควรจะอยู่ที่เป้าหมาย 1730 จุด
ซึ่งถ้าคิดเป็นค่า P/E Ratio จะอยู่ที่ราวๆ 18 เท่า
เราอาจจะสงสัยว่า เป็นไปได้เหรอ ?
ถึงแม้จะอยู่ที่ 18 เท่า ก็ยังถือว่า "สูงกว่า" เพื่อนบ้านของเราอยู่ดี ...
ฝ่ายวิจัยเอเชียพลัส มองว่า มี 3 เหตุผลที่จะหนุนให้ตลาดซื้อขายบน P/E สูงขึ้น ประกอบไปด้วย
1. ปัจจัยแวดล้อมลดความรุนแรงลง ... ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อที่ลดความรุนแรงลง
2. ความเสี่ยงจีน ไต้หวัน และสหรัฐ ยังร้อนแรง แต่ยังไม่นำไปสู่ความรุนแรง และความกังวลส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นก็ได้สะท้อนลงไปในราคาหุ้นแล้ว
3. ตลาดหุ้นไทยเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว ดูดีกว่าในมุมเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการคนละครึ่งเฟส 5 การผ่อนคลายโควิด ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วเศรษฐกิจเริ่มชะลอ
จากสิ่งที่กล่าวมาช่วยหนุนให้ Fund Flow ไหลเข้าในหุ้นไทยมากขึ้น น้ันเอง ...
ฝ่ายวิจัยเอเชียพลัส มองว่า เป้าหมายของ SET Index อยู่ที่ 1730 จุด การลดลงของตลาดหุ้นไทยเป็นแค่การปรับฐาน ไม่ใช่การเปลี่ยนแนวโน้ม
ดังนั้น ถือเป็นโอกาสสะสมในปัจจุบันเพื่อรับผลตอบแทนที่ดีในอนาคต
--------------------------------------
Reference