"ธุรกิจประกันชีวิต จะยังดีในระยะยาว ..."
หุ้น IPO ที่เข้าตลาดมาใหม่ๆ ยิ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่แล้วรายย่อยจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ
บ้างก็อาจจะเข้าไปเก็งกำไร แต่บางคนอาจจะยังดูๆไปก่อน รอดูผลประกอบการว่าจะออกมาเป็นยังไง
และหุ้น TLI - ไทยประกันชีวิต ก็เป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่เข้ามาเทรดในตลาดหุ้นไม่นาน พร้อมทั้งผลประกอบการที่ "ลดลง"
แต่ผลประกอบการที่ลดลง ไม่ได้หมายความว่า TLI จะไม่น่าสนใจ
เป็นยังไง อยากจะเล่าให้ฟังแบบนี้ครับ
ผลประกอบการของ TLI ล่าสุด
ไตรมาส 3 ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 2.62 พันล้านบาท
ไตรมาส 2 ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 2.01 พันล้านบาท ... ลดลง 23% yoy
ไตรมาส 1 ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 3.79 พันล้านบาท ... ลดลง 47% qoq
โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ผลประกอบการลดลง ประกอบไปด้วย 2 เหตุผลด้วยกันคือ
1. ไตรมาสที่ 1 ปี 2565 มีการบันทึกกำไรจากการลงทุนในตราสารทุน 2.2 พันล้านบาท ในขณะที่ไตรมาส 2 ปี 2565 มีการบันทึกเพียง 441 ล้านบาท
... พูดง่ายๆคือ TLI มีการลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น
2. ค่าใช้จ่ายเพิ่มทั้งการจ่ายผลประโยชน์ ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มและค่าสินไหมที่เพิ่มขึ้นเพราะมีกรมธรรม์ที่ครบอายุเพิ่มขึ้น ตรงส่วนนี้เพิ่มมากถึง 22% yoy
อ่านมาถึงตรงนี้ เราอาจจะมองว่า "ไม่น่าสนใจ"
... แต่ไม่ใช่แบบนั้นเลย ถ้าเราลองอ่านบทวิเคราะห์จะพบว่า TLI ยังมีปัจจัยบวกที่น่าจับตาอย่างยิ่ง ประกอบไปด้วย
1. ภาพรวมธุรกิจประกันจะได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว
2. เริ่มเห็น TLI เน้นขายผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพการทำกำไรสูง เช่น ประกันชีวิตแบบ Unit Link และประกันสุขภาพ
3. จากทิศทาง Bond Yields ที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะ 5 ปี และ 10 ปี จะเป็นผลบวกต่อ TLI ในระยะยาว
4. TLI มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น 14.2% จากเดิมที่ 13.7% ในปีที่แล้ว
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส มองว่า ผลประกอบการไตรมาส 3 ที่กำลังมาถึง จะดูดีกว่าไตรมาส 2 ปีนี้ และครึ่งปีหลังจะเป็นปีที่ดีของ TLI โดยเฉพาะผลบวกจาก Bond Yields ที่ปรับตัวสูงขึ้น
ฝ่ายวิจัยมองว่าธุรกิจประกันชีวิต จะยังดีในระยะยาว ...
-------------------------------------------------
Reference
คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ