"มีโอกาสสูงมากที่จะเห็นกําไรทําจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ..."
ตอนนี้บริษัทจดทะเบียนไทย ประจำไตรมาส 2 ปี 2565 รายงานผลประกอบการไปแล้ว 465 บริษัท ซึ่งเป็นคิดสัดส่วนราวๆ 87% ของ Market Cap. ตลาดหุ้นไทยทั้งหมด
ซึ่งผลประกอบการรวมอยู่ที่ 3.2 แสนล้านบาท
คิดเป็นการเติบโต 21% qoq และ 28% yoy
ถ้าเรากลับไปดูไตรมาสที่ทำกำไรได้สูงสุด คือ ไตรมาส 1 ของปี 2561
พบว่า กำไรสูงสุดจะอยู่ที่ 2.95 แสนล้านบาท
นั้นแสดงว่าไตรมาส 2 ของปี 2565 มีกำไรเพิ่มสูงขึ้นกว่ามาก และนับเป็นจุด All Time High ของผลประกอบการที่บริษัทจดทะเบียนไทยเคยทำได้
ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเรารวมผลประกอบการไตรมาส 1 (ทำได้ 2.81 แสนล้านบาท) และ 2 ของปี 2565 เข้าด้วยกัน อาจจะทำให้กำไรรวมครึ่งปีสูงเกิน 6 แสนล้านบาท เข้าไปแล้ว
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส ประมาณการทั้งปี 2565 ว่ากำไรน่าจะอยู่ราวๆ 1.04 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น EPS ที่ 88.9 บาท/หุ้น
ซึ่งสูงเป็นครึ่งหนึ่งของที่ฝ่ายวิจัยประมาณการทั้งปีเอาไว้ ทำให้ฝ่ายวิจัยอาจจะต้องมีการปรับประมาณกำไรทั้งปีเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยในอนาคต
ถามว่า การที่กำไรทำจุดสุงสุด มันมีความสำคัญอย่างไร
ทำไมนักลงทุนต้องให้ความสนใจมากขนาดนั้น ?
คำตอบ คือเพราะกำไรที่สูงขึ้น อาจจะทำให้ EPS ของหุ้นไทยเพิ่มขึ้น
เมื่อ EPS เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ค่า P/E Ratio ลดลง เป็นการเพิ่ม "เสน่ห์" ของหุ้นไทยราคาไม่แพง มี Valuation น่าสนใจทั้งในมุมของกองทุนต่างชาติ - สถาบัน รวมถึงนักลงทุนไทยด้วยกันเอง
ถึงแม้ว่าในระยะสั้น ราคาหุ้นจะผันผวนขึ้นๆลงๆ ตามแรงความกังวลของเศรษฐกิจรอบโลก
แต่ในระยะยาวแล้ว ราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้นตามผลประกอบการที่เพิ่มขึ้น ครับ ...
--------------------------------------
Reference