ลงทุนต่างประเทศ ฟังดูแล้วเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว ...
ขั้นตอนยุ่งยาก การเปิดบัญชี อัตราแลกเปลี่ยน ค่าธรรมเนียมยังสูง จำนวนเงินขั้นต่ำ กฏระเบียบต่างๆ และยังมีเรื่องการจัดการภาษีอีกด้วย
แต่สำหรับตอนนี้ การลงทุนต่างประเทศจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว
เพราะในตลาดหลักทรัพย์มีเครื่องมือที่เรียกว่า Depositary Receipt หรือ DR ทำให้เราซื้อขายได้เหมือนกับหุ้นไทยตัวหนึ่งผ่านโปรแกรม Streaming
DR คือ ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์ลงทุนที่ออกแบบมาเพื่อให้นักลงทุนไทยสามารถเข้าถึงการลงทุนหุ้น หรือ ETF ต่างประเทศได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยสามารถลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยบัญชีซื้อขายหุ้นได้ทันที เหมือนการซื้อขายหุ้นทั่วไป
คำถามคือ สิ่งที่นักลงทุนไทยต้องรู้มีอะไรบ้าง
นี้เป็น 4 ข้อ ที่นักลงทุนมักจะถามกันมากที่สุด คือ
1. ไม่ต้องเปิดบัญชีใหม่ ซื้อขายผ่านบัญชีหลักทรัพย์ที่เรามีอยู่ได้เลย
2. ซื้อขายในสกุลเงินบาท
3. ค่าธรรมเนียมเท่ากับการซื้อขายหุ้น และกำไรที่ได้จาก DR ไม่เสียภาษี
4. ได้รับสิทธิประโยชน์เหมือนลงทุนตรง เช่น ได้รับเงินปันผล
Source : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศมีการซื้อขาย DR อยู่ท้ังหมด 10 ตัวด้วยกัน ประกอบไปด้วย
1. BABA80
ลงทุนในหุ้น Alibaba บริษัทเทคโนโลยีด้าน E-Commerce ธุรกิจหลากหลายตั้งแต่ร้านค้าออนไลน์ โลจิสติกส์ และคลาวด์คอมพิวติ้ง จดทะเบียนในตลาดฮ่องกง
2. BYDCOM80
ลงทุนในหุ้น BYD รถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอร์รี่ระดับดลกที่มียอดขายเติบโตสูงมากในจีนและต่างประเทศ จดทะเบียนในตลาดฮ่องกง
3. CN01
ลงทุนในดัชนีอ้างอิง CSI300 คือกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ของจีนที่เป็น A-Share ใน 300 บริษัท กระจายอยู่ใน 11 อุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตสูงมากในจีน
4. CNTECH01
ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีของจีนและฮ่องกงขนาดใหญ่ 30 บริษัท ที่เป็นระดับสากล อยู่ในกลุ่ม Cloud, E-commerce และ FinTech เช่น Alibaba, Tencent, Meituan, Xiaomi
5. E1VFVN3001
ลงทุนในหุ้นเวียดนาม ภายใต้กองทุน ETF ที่มีชื่อว่า E1VFVN30 ที่เน้นลงทุนในหุ้นดัชนี VN30 บริษัทชั้นนำ 30 แห่งของเวียดนามที่มีขนาดใหญ่ และสภาพคล่องสูง เช่น VINGroup, VINAMilk, VPBank
6. FUEVFVND01
ลงทุนในหุ้นเวียดนาม ในดัชนีอ้างอิง VN DAIMOND บริษัทชั้นนำที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ
7. NDX01
ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีชั้นยอดของอเมริกา อ้างอิงกับดัชนี NASDAQ100 คือ หุ้น 100 บริษัทขนาดใหญ่ตามขนาด Market Cap ของง NASDAQ เช่น Meta, Nvidai, Apple, Microsoft, Amazon , Netflix
8. STAR5001
ลงทุนอ้างอิงดัชนี STAR50 คือหุ้นขนาดใหญ่ 50 อันดับของตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ ที่เป็นหุ้นเทคโนโลยีและได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลจีน
9. TENCENT80
ลงทุนในหุ้น Tencent บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง
10. XIAOMI80
ลงทุนในหุ้น Xiaomi แบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำของโลก ผลิตสินค้าหลากหลาย เช่น สมาร์ทโฟน หูฟังไวเลส สมาร์ททีวี สินค้าไลฟสไตล์ต่างๆที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี จดทะเบียนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง
การลงทุนต่างประเทศไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
เปิดโอกาสรับผลตอบแทนที่มากขึ้น โอกาสก็มากขึ้น
แต่การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนการลงทุนทุกครั้งครับ ...