ถ้าเราสังเกตจะเห็นว่าช่วงนี้ตลาดหุ้นทั่วโลก สินทรัพย์เสี่ยงมีความผันผวนอย่างหนักจากประเด็นเรื่องของเงินเฟ้อที่พุ่งสูง สภาวะ Recession ของเศรษฐกิจอเมริกา และล่าสุดเรากำลังกังวลความตึงเครียดระหว่างจีนและอเมริกาที่ยังคาดเดาทิศทางไม่ได้
แต่สำหรับตลาดหุ้นไทยต้องยอมรับว่าลงน้อยกว่าตลาดหุ้นโลกหรือสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ

ถามว่าทำไมหุ้นไทยถึงลงน้อยกว่า ... น่าจะมาจากสาเหตุสำคัญ 2 ประการ คือ 
1. ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างนิ่งมาอย่างยาวนาน 
ในขณะที่หุ้นโลกเกิดการฟื้นตัวหลังโควิด แต่ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวได้ช้ากว่า ทำให้เวลาหุ้นโลกเกิดการปรับฐานลงมา หุ้นไทยเลยลงน้อยกว่าไปด้วย

2. ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยมีแนวโน้มออกมาดี
ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทจดทะเบียนไทยรายงานงบไตรมาส 2 ออกมาแล้ว 36 บริษัท มีกำไรรวมกว่า 1.01 แสนล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 16.6% เทียบกับไตรมาส 1 ในปีเดียวกัน
... และเติบโต 10.4% เทียบกับไตรมาส 2 ในปีที่แล้ว

ซึ่งถ้าเราเอาบทวิเคราะห์ Preview ผลประกอบการของโบรคเกอร์หลายๆแห่งมีมุมมองไปในทิศทางเดียวกันว่าออกมาดีกว่าที่ตลาดคากันเอาไว้
ข้อมูลจาก Bloomberg มีการทำ Earning Preview พบว่าดีกว่าที่คาดไว้ถึง 5.3% .... 
ซึ่งการที่ผลประกอบการออกมาดี อาจจะเป็นแรงหนุนช่วงให้ FundFlow ของต่างชาติไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทย ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ถ้าคิดในแง่ของพื้นฐาน

ดังนั้น ส่วนหนึ่งที่หุ้นไทยไม่ลงแรงตามตลาดหุ้นอื่น
ส่วนหนึ่งมาจากการที่ นักลงทุนกำลังให้ความสำคัญกับผลประกอบการหุ้นไทยมากขึ้น .. นั้นเอง

ฝ่ายวิจัยเอเชียพลัส วิเคราะห์ไว้ 2 ประเด็นที่น่าสนใจ 
1. ทิศทางของผลประกอบการหุ้นไทย และหุ้นอเมริกา มีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน 
โดยบริษัทจดทะเบียนในอเมริกา ประกาศผลประกอบการออกมาแล้วคิดเป็น 87% ซึ่งเฉลี่ยดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ 5% ส่งผลให้ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นได้มากถึง 7-8% 
ดังนั้น ถ้าคิดจากสมมุติฐานนี้ หุ้นไทยก็น่าจะปรับตัวขึ้นได้เหมือนอย่างที่ตลาดหุ้นอเมริกาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน 
และสัปดาห์นี้ เราจะเห็นการทยอยประกาศผลประกอบการหุ้นไทยที่เหลือเกือบทั้งหมด ...

2. ฝ่ายวิจัยทำประมาณการทั้งปีไว้ที่ 1.04 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น EPS ที่ 88.9 บาท/หุ้น 
ซึ่งผลประกอบการครึ่งปีของหุ้นไทย พบว่าเกินกว่าครึ่งหนึ่งที่ฝ่ายวิจัยประมาณกันเอาไว้แล้ว

ส่งผลให้ผลประกอบการทั้งปีมีแนวโน้ม "ออกมาดีกว่าคาด" ...
เมื่อออกมาดีกว่า จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่อาจจะมีการปรับเป้าขึ้นของ SET Index และส่งผลให้ Doweside ของหุ้นไทยจำกัด

ปัจจุบัน Bloomberg Consensus มองว่า EPS หุ้นไทยน่าจะอยู่ราวๆ 98.12 บาทต่อหุ้นถือเป็น Sentiment ที่ดีต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้

ถึงแม้ผลประกอบการของหุ้นไทยจะออกมาดี แต่สิ่งที่น่ากังวลอยู่ตอนนี้ คือ ปัจจัยจากต่างประเทศโดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างอเมริกาและจีน ที่เรายังต้องจับตากันอย่างใกล้ชิดครับ

------------------------------------------
Reference

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส