ตั้งแต่วันพฤหัสบดี เราจะได้ยินข่าวว่า GDP สหรัฐ Q2 ติดลบ -0.9% ซึ่งเป็นการติดลบต่อกัน 2 ไตรมาส

พูดง่ายๆ คือ ตอนนี้เศรษฐกิจอเมริกาได้เข้าสู่สภาวะ Technical Recession เรียบร้อยแล้ว

.

แต่เป็นเรื่องน่าแปลกตรงที่ว่า หุ้นกลับบวกสวนได้อย่างเหลือเชื่อ ..

พอวันศุกร์ตลาดหุ้นก็ยังบวกต่อไปได้อีก โดยตลาดหุ้นทางฝั่งอเมริกาบวกเฉลี่ยราวๆ 1-1.2%

ถามว่า ทำไมถึงเป็นแบบนั้น

ทำไมอเมริกาเกิด Recession แล้ว หุ้นถึงยังบวกต่อไปได้ ?

คำตอบ น่าจะประกอบไปด้วย 3 เหตุผล คือ

1. GDP สหรัฐ Q2 ติดลบ -0.9% ถือว่าเล็กน้อยมากและยังไม่เข้าคำจำกัดความว่า Recession จริงๆ

เพราะถ้าเกิด Recession ทุกอย่างมันต้องแย่ไปหมด แต่ตัวเลขของการจ้างงาน และการบริโภค ยังออกมาดีอยู่

ดังนั้นไม่น่าจะเข้าข่ายของการเกิด Recession จริงๆ

2. นักลงทุนรับข่าวร้ายเรื่อง Recession มากจนเกินไป

เมื่อความจริงปรากฏว่า "ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด" จึงเกิดการซื้อกลับของนักลงทุนสถาบัน

3. หรือถ้าเฟดเข้าใจว่า .. โอเค เกิด Recession แล้วนะ ดังนั้นทางเฟดจะไม่ขึ้นดอกเบี้ย หรืออาจจะขึ้นแต่ขึ้นไม่เยอะมากเหมือนอย่างที่ตลาดคาดกันก่อนหน้านี้ว่าจะขึ้นแบบดุเดือดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

แน่นอนว่า ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเป็นสิ่งที่ตลาดหุ้นไม่ชอบ

เมื่อเฟดขึ้นดอกเบี้ยน้อย หรืออาจจะไม่ขึ้นเลย นักลงทุนจึงมีความมั่นใจในการเข้าไปซื้อหุ้นมากขึ้น นั่นเอง ...

ประเด็นต่อมา คือ ถ้าเราอยากจะมองข้ามเรื่อง Recession ไป นักลงทุนกำลังให้ความสนใจกับอะไรอยู่

คำตอบ คือ การประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของอเมริกา

ช่วงนี้เป็นช่วงที่บริษัทจดทะเบียนในอเมริกาอยู่ในช่วงของการประกาศผลประกอบการ และวอลสตรีทก็คาดว่าบริษัทส่วนใหญ่จะประกาศผลประกอบการออกไปในทาง "ดี"

เป็นเพราะว่าวอลสตรีทรับรู้ข่าวร้ายมากจนเกินไปว่าผลประกอบการไม่น่าจะออกมาดี จากเงินเฟ้อพุ่งสูง การบริโภคชะลอตัว ราคาน้ำมันแพง ไปจนเยอะมากแล้ว

เมื่อความจริง คือ การบริโภคฟื้นตัว การจ้างงานยังดีอยู่ ดังนั้นผลประกอบการก็ออกมาไม่ได้เลวร้ายอย่างที่นักลงทุนคิด ...

-----------------------------------------

Reference

CNBC

Forbes.com