#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

ผู้พันแซนเดอร์ส ชายผู้ไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลยนอกจากทอดไก่ขาย

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
157 views

เวลาเราเดินเข้าร้าน KFC สิ่งแรกที่เราเห็น คือ มีชายสูงวัยใส่ชุดสูทสีขาว ผูกริบบิ้นสีดำ หน้าตายิ้มแย้มดูเป็นมิตร
ชายผู้นี้มีชื่อว่า Harland David Sanders หรือที่คนไทยเรียกเขาว่า "ผู้พันแซนเดอร์ส"

เด็กๆที่เดินผ่านคงอาจจะคิดว่า ชายผู้นี้น่าจะเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง
ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วเขาคงจะไม่ได้เป็น "ไอคอน" ยืนอยู่หน้าร้าน KFC ทั่วโลกอย่างแน่นอน
ปรากฏว่า ความจริงนี้ถูกเพียงครึ่งเดียว ...
ส่วนที่ถูก คือ เขาเป็นนักธุรกิจ
แต่ส่วนที่ผิด คือ เขาประสบความสำเร็จอย่างสูง
เพราะความจริงแล้วเขาไม่เคยประสบความสำเร็จอะไรเลย เว้นแต่ การทอดไก่ขาย


เด็กชายแซนเดอร์ส เกิดในปี 1890 ในเมืองเล็กๆอย่าง Henryville รัฐ Indiana ที่ค่อนข้างยากจน พ่อแม่ของเขาทำงานอย่างหนัก จนพ่อของเขาเสียชีวิต ทำให้แม่ของเขาต้องออกไปทำงานหนักกว่าเดิม และเขามีหน้าที่แค่เลี้ยงน้อง 2 คน

พอเขาเริ่มโตขึ้นมาหน่อย จึงลาออกจากโรงเรียนและออกไปหางานทำเป็นงานดูแลฟาร์มที่บ้านข้างๆของเขา และเวลานั้นเองเขาก็ได้เริ่ม "ฉายแวว" เกี่ยวกับการทำอาหารในวัย 7 ขวบ
ถึงแม้เขาจะขยันมาก แต่รายได้ก็ไม่เพียงพอในการดูแลครอบครัว
จนกระทั่งแม่ของเขาได้แต่งงานใหม่ ซึ่งพ่อเลี้ยงของเขาชอบใช้ความรุนแรงกับเด็กชายแซนเดอร์สอยู่เสมอ จนเขาทนไม่ไหวหนีออกจากบ้านไป และทำอยู่หลายอาชีพไม่ว่าจะเป็นกรรมกรแบกหาม รับจ้างทาสีบ้าน เป็นงานดูแลฟาร์มไร่ ย้ายเมืองไปเรื่อยๆไม่ได้มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
จนกระทั่งเขาอายุได้ 16 ปี จึงไปสมัครเป็นทหารในกองทัพสหรัฐเพราะคิดว่าชีวิตน่าจะดีกว่าที่เป็นอยู่
อย่างน้อยก็มีข้าวกินและมีที่ซุกหัวนอนเป็นหลักแหล่ง

ตอนที่เขาอายุได้ 18 ปี ก็ปลดประจำการจากกองทัพและแต่งงานสร้างครอบครัวกับโจเซฟิน คิงส์ มีลูกด้วยกันสามคน คือ ฮาร์แลนด์, มายเรด และ มาร์กาเรต
ชีวิตเขาก็ยังเหมือนเดิม คือ "ไม่มีแก่นสาร"
ย้ายเมืองไปเรื่อยๆ เปลี่ยนอาชีพไปเรื่อยๆ ตั้งแต่กรรมกรก่อสร้าง ล้างหัวรถจักร พนักงานดับเพลิง คนขายประกันชีวิต ขับเรือ
จนกระทั่งภรรยาเริ่มทักแล้วว่า ชีวิตจะอยู่แบบนี้ไม่ได้แล้วนะ ...
เขาจึงรวบรวมเงินได้ก้อนหนึ่ง ลงทุนในธุรกิจที่เขาพบว่ามันน่าจะดีเยี่ยมมากๆ คือ ตะเกียงที่ใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติ
... แซนเดอร์สจึงตัดสินใจซื้อสิทธิบัตรและเปิดบริษัทผลิตตะเกียง แต่ทำได้ไม่นาน อยู่ดีๆรัฐบาลก็ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยขยายไฟฟ้าสู่ชุมชน กลายเป็นว่าตะเกียงของเขากลายเป็นของล้าสมัย และก็ต้องปิดตัวลงอย่างรวดเร็ว

เหมือนเดิม ... เขาก็ยังวนเวียนอยู่กับเปลี่ยนเมือง เปลี่ยนงานไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาอายุได้ 40 ปี เขามีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่งจึงเดินทางไปยังเมืองคอร์บิน รัฐเคนทักกี เพื่อเปิดปั้มน้ำมันเล็กๆ โดยภายในปั้มมีร้านอาหารที่เขาจัดการเองซึ่งเป็นเรื่องที่เขาถนัดมากที่สุด คือการ "ทอดไก่'
มีลูกค้าจำนวนมากติดใจในไก่ทอดของเขา มันเนื้อนุ่ม แป้งกรอบ อร่อย และราคาไม่แพง เขาจึงขยายร้านให้ใหญ่กว่าเดิม มีที่นั่งกิน รับรองลูกค้าได้มากขึ้น รวมถึงเปลี่ยนชื่อไก่ทอดของเขาเป็น
... "Kentucky Fried Chicken of Harland Sanders"

ชีวิตของเขาดูดีขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจก็กำลังไปได้สวย มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น กระทะทอดไก่ที่สามารถถอดไก่ได้หลายชิ้นพร้อมๆกันในเวลารวดเร็ว วางตำแหน่งร้านอาหารตัวเองประเภท "จานด่วน" คือไม่ต้องรอนาน สั่งแล้วกินได้เลย (Quick Service Restaurant)
จนผู้ว่าการรัฐได้แต่งตั้งให้เขาเป็น "Kentucky Colonel" หรือ "ผู้พันแห่งเคนทักกี"
... โดยตำแหน่งนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับตำแหน่งทางการทหาร แต่ให้เพื่อสดุดีสำหรับคนที่สร้างคุณงามความดีและทำประโยชน์ให้กับรัฐเคนทักกี

เหมือนจะจบแบบแฮปปี้ แต่ชีวิตจริงโหดร้ายกว่านั้นเยอะ ...
ตอนที่เขาอายุได้ 60 ปี เมืองเคนทักกีมีการลงทุนตัดถนนครั้งใหญ่ ทำให้ผู้คนหันไปใช้ถนนเส้นใหม่ ไม่ได้แวะผ่านร้านอาหารของเขาเหมือนแต่ก่อน ทำให้เขาประสบปัญหากับการขาดทุน เริ่มเป็นหนี้ รวมถึงสุขภาพเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ

แซนเดอร์ในวัย 66 ปี ต้องขอสวัสดิการของรัฐเดือนละ 105 ดอลล่าร์ในการดำรงชีพ
เขาเคยออกมาเปิดเผยผ่านจดหมาย (ที่ค้นพบหลังจากเขาเสียชีวิตไปแล้ว) ว่าเขาน่าจะเป็นโรคซึมเศร้าและพร้อมจะฆ่าตัวตายได้ทุกเมื่อ
แต่ระหว่างที่เขียนจดหมาย เขาพบว่าตัวเองยังไม่เคยทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันเลย อย่างน้อยก็น่าจะทำอะไรให้กับลูกๆของเขาบ้าง
เขาจึงใช้เงินของรัฐ ขึ้นรถเมล์เดินทางไปทั่วอเมริกาเพื่อขายสูตรไก่ทอดของเขา

สุดท้ายในวัย 74 ปี เขาสามารถขายสูตรไก่ทอดของเขาได้ ด้วยเงิน 2 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้กับชายหนุ่มนักธุรกิจ 2 คน คือ จอห์น บราวน์ และ แจ็ค เมอร์ซี่
เขายังได้เงินพิเศษรายปีอีก 2.5 แสนเหรียญสหรัฐ ในฐานะที่เขาเป็น Brand Ambassador ของ KFC

สุขภาพของแซนเดอร์แย่ลงเรื่อยๆ และเขาตรวจพบเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวทำให้เสียชีวิตในวัย 90 ปี
ปิดตำนานของชายที่ไม่เคยประสบความสำเร็จอะไรเลย นอกจากการทอดไก่ขาย

อ่านมาถึงตรงนี้ เราอาจจะสงสัยว่า แล้ว KFC จะยังไงต่อ ?
ในปี 1986 KFC ได้ถูกขายกิจการไปให้กับ PepsiCo ด้วยมูลค่าราวๆ 850 ล้านเหรียญสหรัฐ (เทียบเท่าประมาณ 2 พันล้านเหรียญในปัจจุบัน) ระหว่างนั้นทาง PepsiCo มีแบรนด์ร้านอาหารอยู่ในมือแล้วไม่ว่าจะเป็น Pizza Hut และ Taco Bell แต่การบริหารไปสักพักทำให้ทางผู้บริหารเล็งเห็นว่าการทำธุรกิจร้านอาหารไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และทาง PepsiCo ก็อยากจะหันไปโฟกัสกับธุรกิจเครื่องดื่มของตัวเองมากกว่าจึงมีการแยกบริษัทออกมาเป็น  Tricon Global Restaurants

ในปี 2002 Tricon Global Restaurants ก็เปลี่ยนชื่อมาเป็น Yum! Brands
และถูกลิสต์ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กจนถึงปัจจุบัน


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง