โดย stock2morrow
135 viewsจากผู้เขียนหนังสือดังกล่าว อย่างนายสุรเชษฐ กองชีพ วันนี้กลายมาเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด พร้อมนำประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ในการทำงานวิจัยตลาดอสังหาฯ มาทำหน้าที่เป็นบริษัทที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาฯแบบครบวงจร
งานเปิดตัวบริษัท Property DNA จะมีรายละเอียดอะไรน่าสนใจบ้าง ทีมงาน stock2morrow สรุปมาให้ดูครับ
บริษัท Property DNA ทำอะไร?
- เก็บข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์
- รายงานวิจัยตลาดของอสังหาริมทรัพย์
- ศึกษาคู่เเข่งในตลาด
- ศึกษาภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์
- ศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุน
- เป็นที่ปรึกษาโครงการอสังหาริมทรัพย์
- เป็นตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์
การคาดการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้า (2023)
ปัจจัยบวก : เศรฐกิจดีจะทำให้การท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ทำให้ชาวต่างชาติจะเข้าประเทศมากขึ้น
ปัจจัยลบ : สงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้เกิดเงินเฟ้อ เเละนำ้มันเเพง
ตลาดคอนโด : คอนโดมิเนียมราคาไม่เกิน 3ล้านบาทยังคงเป็นที่น่าสนใจ
ตลาดบ้านจัดสรร : ยังคงเป็นที่น่าสนใจ
พื้นที่ค้าปลีก : เจ้าของต้องการผู้เช่าขนาดใหญ่ ทำให้ผู้เช่าขาดเล็กลดลง ผู้เช่ารายใหญ่ขยายสาขาเพิ่มขึ้น
อาคารสำนักงาน : การทำงานยังไม่กลับมาเป็นปกติ ทำให้ความต้องการเช่าไม่เพิ่มมาก
โรงเเรม : โรงเเรมจะดีขึ้นในปีนี้ ถ้าการท่องเที่ยวดีขึ้น
เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ : อัตราการเช่าเพิ่มขึ้น เช่นย่านสุขุมวิท และ ลุมพินีเริ่มฟื้นตัว
เราสามารถพึ่งชาวต่างชาติได้มั้ย?
จากข้อมูล คนจีนเป็นชาติที่ ซื้อเเละโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุด ซึ่งถ้านักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น การซื้อก็จะเพิ่มขึ้น มันสัมพันธ์กันทางบวกต่อกัน
ตลาดคอนโดของไทยยังคงเป็นที่น่าสนใจในจีนไหม?
จาก Baidu (เว็ปไซต์ของจีน) อสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงเป็นที่น่าสนใจอยู่ การลงทุนซื้อบ้านในไทย (ไม่ได้ไปอยู่อาศัย) ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในการค้นหาใน Baidu เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ
เพราะฉะนั้น จีนยังคงสนใจอสังหาริมทรัพย์ไทยอยู่ เเต่จีนยังคงมีปัญหาภายใน เช่นมาตรการ zero covid เเละ เศรษฐกิจชะลอตัว
กำลังคนซื้อในจีนจะกลับมาหรือไม่ ?
เพราะรัฐบาลจีนควบคุมเข้มงวดทำให้ต้องรอดูสถานการณ์ก่อน โดยรัฐบาลจีนออกนโยบาย 3 เส้นเเดง ซึ่งมี 3 หลักเกณฑ์ในการกำหนดโครงสร้างทางการเงินของบริษัทอสังหาริมทรัพย์
- อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนต้องน้อยกว่า 100%
- อัตราส่วนเงินสดต่อหนี้ระยะสั้นต้องมากกว่า 1 เท่าของเงินสด
- อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อสินทรัพย์รวมโดยไม่รวมเงินที่ได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ต้องน้อยกว่า 70%
ซึ่งผู้ประกอบการจีนถึงเเม้จะมีรายได้เยอะเเต่หนี้สินก็มีเยอะเช่นกัน เเละหลายบริษัทมีหนี้สินมากกว่าเกรณฑ์นโยบาย3เส้นเเดงที่รัฐบาลกำหนด
เพราะฉะนั้นเเล้ว ปัญหาในจีนยังเยอะอยู่ เช่น การลดลงของรายได้ในช่วงโควิด-19 หรือ การจำกัดการถือครองของบุคคล
เเต่ไทยเองก็น่าดึงดูดไม่น้อย สิทธิพิเศษเช่น ได้รับกรรมสิทธิ์ในชื่อตัวเอง มียูนิตตกเเต่งพร้อมอยู่ ไม่มีข้อจำกัด
บทสรุปสุดท้ายคือ ต้องรอดูสถานการณ์ไปก่อนเพราะคนจีนบางคนยังมีปัญหาทางการเงิน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจีนยังมีปัญหา รัฐบาลอาจต้องส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
