เฮจฟันด์ (Hedge Fund) ...เงินก้อนนี้ใหญ่ขนาดไหน มีผลต่อตลาดหุ้นได้ยังไงบ้าง ไปดูกันเลยครับ
มูลค่าทรัพย์สินที่บริหารโดยเฮจฟันด์ทั่วโลก สำหรับทั้งปี 2014 สูงถึง 3 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 100 ล้านล้านบาท รวบรวมโดย Preqin Global Hedge Fund Report 2015
ในไตรมาส 3 ปี 2015 ที่ผ่านมา มูลค่าทรัพย์สินของกองเฮจฟันด์รอบโลก ลดลงมาอยู่ที่ 2.87 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนหนึ่งคงมาจากความผันผวนสูงในปี 2015 ที่ผ่านมา จากเหตุการณ์ที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น ตลาดหุ้นจีน หรือสถานการณ์ราคาน้ำมัน
แต่เงินเฮจฟันด์ก้อนนี้ใหญ่แค่ไหนกัน?
เงิน 3 ล้านล้านดอลล่าร์ก้อนนี้ ใหญ่ประมาณ 8 เท่าของ GDP ประเทศไทยในปี 2014 และใหญ่ประมาณ 70% ของมูลค่าตลาด (Market Cap) ตลาดหุ้นจีนในปัจจุบัน
ขนาดทรัพย์สินของกองเฮจฟันด์เติบโตขึ้นเรื่อยๆตามความ "กล้าเสี่ยง" ของนักลงทุนที่เพิ่มมากขึ้นตามการฟื้นตัวของตลาดหุ้นทั่วโลกจากปี 2008
จะสังเกตว่าแม้เงิน 3 ล้านล้านของ Hedge Fund นั้นคิดเป็นเพียง 4% ของมูลค่า Market Cap ตลาดโลกปี 2014 ...แต่เงินก้อนนี้ใหญ่พอที่จะดันตลาดหุ้นบางตลาดไปในทิศทางที่ชัดเจนได้เลยครับ
อย่างตลาดหุ้นจีน มีมูลค่า 29.5 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 160 ล้านล้านบาท คิดเป็น 160% ของมูลค่าทรัพย์สินเฮจฟันด์รอบโลก แม้ว่าโดยปกติแล้วเฮจฟันด์จะกระจายลงทุนไปในหลายสินทรัพย์และกลุ่มประเทศ แต่เอาเข้าจริง ช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นจีนเริ่มเคลื่อนไหว สินทรัพย์เฮจฟันด์ที่ย้ายมารุมสกรัมตลาดจีนพร้อมๆกันก็มากขึ้น จึงสามารถเป็นสัดส่วนที่มีนัยยสำคัญต่อการดันตลาดหุ้นจีนทั้ง "ขาขึ้นและขาลง" ได้เช่นกัน
หลังจากตลาดหุ้นจีนพังลงปีที่แล้ว ก็มีข่าวออกมาครับว่า ทางการจีนกำลังไล่ตามจับกองทุนเฮจฟันด์ชื่อ Zexi Investment ซึ่งบริหาร 4 ใน 10 กองทุนเฮจฟันด์ที่ดีที่สุดในเมืองจีน และสงสัยว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่เพิ่มความรุนแรงในการร่วงลงของตลาดจีนปีที่ผ่านมา
ดังนั้นมูลค่าของทรัพย์สินที่บริหารโดยกองเฮจฟันด์ แม้ว่าจะมีสัดส่วนแค่ไม่มากนักเทียบกับตลาดรอบโลก แต่ก็สามารถกำหนดทิศทางการไหลของเงินก้อนใหญ่จากมวลชนและสถาบันอื่นๆให้เข้ามาผลักดันตลาดกันต่อไปได้
แต่เหตุการณ์กำลังจะเปลี่ยนไป
จากข้อมูล ปี 2014-2015 เป็นปีที่เฮจฟันด์เหนื่อยขึ้น เพราะโดนกดดันอย่างหนักจากความผันผวนในตลาด หลายกองทำผลตอบแทนได้แย่กว่าตลาด S&P 500 เองเสียอีก!
บางทีความผันผวน (Volatility Index) ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ในปีนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม กำลังเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า แม้แต่เฮจฟันด์เองก็กำหนดทิศทางและควบคุม "นายตลาด" ไม่ได้ ...ทำให้ยากขึ้นที่จะชนะตลาดต่อจากนี้
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก Preqin, IMF และ Bloomberg